“ลดาวัลลิ์” แนะ “ประยุทธ์” ใช้เวทีประชุมสุดยอดอาเซียนปูทางทวงคืน GSP

(1 พ.ย. 62) นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า การจัดประชุมสุดยอดอาเซียนที่กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 21 ตุลาคม – 4 พฤศจิกายน 2562 โดยไทยเป็นเจ้าภาพ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ควรแสดงภาวะความเป็นผู้นำให้สหรัฐฯ และประเทศต่างๆในโลกได้เห็นศักยภาพของไทยและภูมิภาคอาเซียน ทั้งในด้านเศรษฐกิจ ความมั่นคง และวัฒนธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันที่ 4 พฤศจิกายน มีกำหนดการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐฯ ซึ่งนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯได้ส่งตัวแทนมาร่วมประชุมด้วย ควรจะเป็นโอกาสดีที่สหรัฐฯจะได้รับรู้เจตนารมณ์ของคนไทยเกือบ 70 ล้านคน อันจะนำไปสู่การทบทวนและคืนสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP) ให้ไทย เพื่อเห็นแก่ความเป็นมิตรประเทศที่มีต่อกันมาช้านาน และจะได้จับมือกันสานประโยชน์ร่วมกันในด้านต่างๆต่อไปในอนาคต
   
นางลดาวัลลิ์ กล่าวว่า การที่ พล.อ.ประยุทธ์ และนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พูดทำนองว่าไทยเป็นประเทศที่พัฒนาไปมากแล้ว  ไม่จำเป็นต้องได้รับการลดหย่อนทางภาษีศุลกากรเวลาส่งสินค้าเข้าสหรัฐฯ นั้น คล้ายกับจะยอมให้ตัด GSP แต่ตนเห็นว่าไม่ใช่การแก้ไขปัญหาที่ถูกต้อง อีกทั้งไม่ตรงประเด็น ทั้งนี้เนื่องจากปัญหาที่สหรัฐฯจะตัด GSP สินค้า 573 รายการ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท มีผลตั้งแต่ 25 เมษายน 2563 โดยสหรัฐฯอ้างว่า ไทยไม่ให้สิทธิในการจัดตั้งสมาคมหรือสหภาพแรงงานให้กับแรงงานต่างชาติ กรณีนี้ รัฐบาลไทยโดยกระทรวงแรงงานจะต้องอธิบายแจกแจงสภาพความเป็นจริง ว่าแรงงานต่างชาติที่เข้ามาอยู่ในประเทศไทย มีสิทธิเสรีภาพต่างๆอย่างไรบ้าง มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างไร การที่แรงงานเหล่านี้ ไม่ได้ตั้งสหภาพแรงงานก็ไม่เกิดผลกระทบหรือไม่เสียสิทธิประโยชน์ขัดต่อมาตรฐานแรงงานในระดับสากลอย่างไรบ้าง แรงงานต่างด้าวต่างพึงพอใจอย่างไรที่ได้ทำงานในไทย เมื่อสภาพความเป็นจริงถูกเผยแพร่ออกไป ก็น่าจะเป็นความชอบธรรมที่ไทยไม่ควรจะถูกสหรัฐฯตัด GSP เพราะการตัด GSP จะทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจส่งออกสินค้าของไทยได้รับความเดือดร้อน เพราะจะต้องเสียภาษีนำเข้าสินค้าสูงขึ้นเมื่อส่งไปขายในสหรัฐฯ
   
นางลดาวัลลิ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ตามที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มอบหมายให้สำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศ ณ กรุงวอชิงตัน ดีซี ประสานงานร่วมกับทูตแรงงานประจำกรุงวอชิงตัน ดีซี ไปหารือร่วมกับสำนักงานผู้แทนการค้าของสหรัฐ หรือยูเอสทีอาร์ ในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้เป็นเรื่องที่ดี แต่ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ควรแสดงบทบาทด้วยการมอบนโยบายหรือแนวทางเป็นพิเศษเพื่อให้ตัวแทนไทยสื่อสารไปถึงนายโดนัลด์ ทรัมป์ ให้ได้รับรู้ว่า การตัด GSP ไทยจะมีผลเสียกับสหรัฐฯมากกว่าผลดี