“ชวลิต” พร้อมหนุน “เกษตรอินทรีย์เป็นวาระแห่งชาติ” ยกระดับไทยเป็น “ครัวโลก”
(15 พ.ย. 62) นายชวลิต วิชยสุทธิ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางควบคุมการใช้สารเคมีในภาคเกษตรกรรม สภาผู้แทนราษฎรเปิดเผยผลการดำเนินงานของ กมธ. และความเห็นที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
1. กมธ. ได้รายงานผลการศึกษาฯ ต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร และประธานฯ ได้สั่งบรรจุในระเบียบวาระการประชุม ในวันพุธที่ 20 พ.ย. 62 ขอให้ติดตามผลการศึกษาและข้อเสนอแนะที่จะมีไปถึงรัฐบาลและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง
2. กมธ. สนับสนุนมติคณะกรรมการวัตถุอันตรายในการแบน 3 สารเคมีอันตรายร้ายแรง คือพาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต เพื่อสุขอนามัยที่ดีของเกษตรกร ประชาชนผู้บริโภค และเด็กเกิดใหม่
3. กมธ. ไม่สนับสนุนการหาสารเคมีชนิดใดมาทดแทนสารเคมีที่ถูกแบน แต่มุ่งมั่น ส่งเสริม สนับสนุน โครงการเกษตรอินทรีย์เป็นวาระแห่งชาติ เพื่อยกระดับการเกษตรของไทย เป็น “ครัวของโลก”
4. ขอชื่นชม ดีเอสไอ ที่ไปตรวจค้น จับกุม ร้านค้าที่จำหน่ายสารชีวภัณฑ์โดยผสมพาราควอต และไกลโฟเซต นับเป็นการทำงานที่ทันกับสถานการณ์ และขอให้ดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำผิดอย่างเฉียบขาด ตรงไปตรงมา เพราะหากินบนความเดือดร้อนของเกษตรกร และประชาชนผู้บริโภค
5. ขอให้หน่วยเฝ้าระวัง สุ่มตรวจสอบ ผัก ผลไม้ และยาปราบศัตรูพืช ทั้งจากกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมมือกับ ดีเอสไอ ดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำผิดอย่างจริงจัง จะส่งผลให้ประชาชนคนไทยโดยรวมมีสุขภาพชีวิตที่ดีขึ้น
6. เมื่อถึงกำหนดวันที่ 1 ธ.ค. 62 ที่มติคณะกรรมการวัตถุอันตรายมีผลบังคับใช้ในการแบน 3 สารพิษดังกล่าว ขอให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมกับ ดีเอสไอ ดำเนินการกับผู้ที่อาจนำสารต้องห้ามดังกล่าวไปแอบจำหน่ายใต้ดิน โดยขอให้ดำเนินการกับผู้กระทำผิดโดยเฉียบขาด โดยยึดประโยชน์สุขภาพอนามัยประชาชนเป็นที่ตั้ง
“ขอยืนยันอีกครั้งในนาม กมธ. ไม่เคยคิดแบนสารพิษชนิดใด เพื่อหาสารตัวอื่นมาทดแทน เป้าหมายสูงสุดของ กมธ. คือ โครงการเกษตรอินทรีย์เป็นวาระแห่งชาติ เพื่อยกระดับการเกษตรของไทยเป็นครัวของโลก” นายชวลิต กล่าว