(18 พ.ย. 62) ที่พรรคเพื่อไทย นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเลือกตั้งซ่อมในพื้นที่เขต 7 ขอนแก่น ว่า พรรคเพื่อไทยมีความมั่นใจอย่างเต็มที่ทั้งตัวบุคลากรที่จะส่งลงสมัครรับเลือกตั้ง และพื้นที่ในทางยุทธศาสตร์ ทั้งนี้เรามี 5 เหตุผลที่พรรคเพื่อไทยจะได้ผลการเลือกตั้งที่ดี ดังนี้

1. 5 ปีที่ผ่านมาผลงาน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ตั้งแต่เป็นรัฐบาลทหาร จนมาถึงรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง พบว่าไม่มีอะไรแตกต่างกัน อีกทั้งยังเผชิญวิกฤติเศรษฐกิจย่ำแย่

2. นโยบายของพรรคพลังประชารัฐ หลายเรื่องยังทำไม่ได้ เช่น ค่าแรงขั้นต่ำ

3. การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ ไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล แต่มีผลต่อการกระตุก เตือนรัฐบาลว่า ไม่ได้ทำให้ประชาชนได้ประโยชน์ แต่กลับทำให้เสียโอกาส

4. ทราบมาว่ามีการใช้กลไกลอำนาจรัฐ กดดัน แทรกแซงเลือกตั้ง ไม่รู้ว่า กกต. จะเอาอยู่หรือไม่ รวมทั้งมีการใช้กลไกลรัฐผ่านกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ที่อาจทำให้คะแนนสวิงกลับ

5. ขอนแก่น ถือเป็นเมืองหลวงฝ่ายประชาธิปไตย ประชาชนที่นั่นไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล การรัฐประหาร เชื่อว่า คนขอนแก่น จะออกมาให้คะแนนยืนยันว่า จะยืนอยู่พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย และคิดว่าการเลือกตั้งซ่อมในเขตนี้ พรรคเพื่อไทย จะได้คะแนนเลือกตั้งที่ดี

นอกจากนี้ นายอนุสรณ์ ยังได้กล่าวถึงกรณีความวุ่นวายในคณะกรรมาธิการการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร (กมธ. ป.ป.ช.) ว่า จากความวุ่นวายนี้คนได้ประโยชน์ คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ที่ไม่กล้าไปพบ กมธ. จึงมีการใช้ยุทธวิธีแยกกันเดินร่วมกันตี คนอยู่ภายนอก กมธ. ก็ให้ข่าวทำให้เกิดความสับสน วุ่นวาย ขณะที่คนที่อยู่ใน กมธ. ก็ใช้ยุทธวิธีเบี้ยแลกขุน มีการสับเปลี่ยนให้คนในพรรคพลังประชารัฐ เข้าไปอยู่ในกมธ. สร้างความปั่นป่วน วุ่นวาย ซึ่ง 5 ปีที่ผ่านมา ไม่มีกลไกลตรวจสอบผ่าน กมธ. เลย

ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ควรเคารพต่อสภา ถ้าไม่เคารพสภา คือไม่เคารพประชาชน กมธ. ทุกคนล้วนมีความตั้งใจดีต่อการทำงาน พล.อ.ประยุทธ์ อย่าทำชีวิตให้ยาก เดินทางไปพบ กมธ. ก็จบ ไม่ไปก็ไม่จบ ประชาชนอยากเห็นประเทศชาติเดินหน้า ควรหยุดเอาวิธีเบี้ยไปแลกขุน และการแยกกันเดินร่วมกันตี รวมถึงต้องเปิดโอกาสให้สภา และ กมธ. ได้ทำงาน