“จิรายุ” แนะ “ชวน” ต้องทำหน้าที่ประธานสภาฯอย่างเป็นกลาง อย่าใช้อำนาจล้วงลูกฝ่ายค้าน ระวังผิดมาตรา 157

(18 พ.ย. 62) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส. กทม. พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การ มหาชน และกองทุน กล่าวถึงกรณี นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ออกระเบียบมาบังคับประธานกรรมาธิการ ว่าประธานสภาฯ เป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ ย่อมรู้ว่า ข้อบังคับจะมาใหญ่กว่ารัฐธรรมนูญไม่ได้  และคณะกรรมาธิการสามัญและวิสามัญเป็นองค์ตรวจสอบถ่วงดุลของสถาบันนิติบัญญัติ ได้รับการแต่งตั้งจากสภาผู้แทนราษฎร มีอำนาจหน้าที่ตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ กฎหมาย และข้อบังคับการประชุมฯ ตลอดจนภารกิจที่สภาผู้แทนราษฎรมอบให้ไปปฏิบัติ ดังนั้น คณะกรรมาธิการทั้งสามัญและวิสามัญมีความรับผิดชอบต่อสภาผู้แทนราษฎรเท่านั้น ไม่ได้รับผิดชอบที่จะต้องไปรายงานต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร

“การที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร ออกคำสั่งเช่นนี้ถือเป็นการก้าวก่ายแทรกแซงภารกิจตามกฎหมายของคณะกรรมาธิการ และอาจเข้าข่ายการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบอีกด้วย ที่สำคัญตนไม่ใช่ลูกน้องประธานสภาฯ มีหน้าที่ควบคุมการประชุมและดูแลข้าราชการประจำสภาเท่านั้น”

   
นายจิรายุ กล่าวว่า ประธานคณะกรรมาธิการกิจการสภา ควรออกคำสั่งเรียกให้ประธานสภาฯมาชี้แจงว่าใช้กฎหมายใด มีสถานะที่สูงกว่า รัฐธรรมนูญข้อไหน อีกทั้งการที่นายชวน สั่งให้ ประธานกรรมาธิการมารายงานว่าจะทำเรื่องอะไร เรียกใคร เชิญใครมา เอาอำนาจอะไรมาสั่งประธาน กมธ. ตนไม่มั่นใจว่าใครร่างประกาศนี้ให้เซ็นแบบไม่ดูตาม้าตาเรือหรือไม่ และที่สำคัญ นายชวนเคยบอกว่า จะเพิ่มวันประชุมวันศุกร์เพื่อพิจารณาญัตติที่แก้ไขปัญหาของประชาชนที่ค้างสภาเป็นจำนวนมาก หากให้ประธาน กมธ. ต้องมาชี้แจง แค่คณะละครึ่งชั่วโมงก็ต้องใช้เวลา 18 ชั่วโมง ตกลงจะใช้เวลาวันศุกร์เพื่อล้วงลูกการทำงานของฝ่ายค้านหรือไม่
   
ทั้งนี้ หากจะมาบังคับให้ตนในฐานะประธานกรรมาธิการศาลฯชี้แจง ตนเองจะไม่ชี้แจงกับประธาน แต่จะขอเวลา 2 ชั่วโมงอภิปรายให้ประชาชนทราบ เพราะมีเรื่องสำคัญที่ต้องตรวจสอบ อาทิ กรณีผู้พิพากษายิงตัวเองที่ยะลา กรณีความหละหลวมเรื่องความปลอดภัยของศาลที่จันทบุรี และเรื่องตรวจสอบทุจริตของรัฐบาลจำนวนมาก วันนี้นายชวนควรจะสนใจเรื่องญัตติและการแก้ปัญหาของประชาชนจะดีกว่า

อย่างไรก็ตาม ตนจะปรึกษาวิปฝ่ายค้าน และประธาน กมธ. ซีกฝ่ายค้าน เพื่อดำเนินทางกฎหมายต่อประธานสภาฯต่อไป หากยังดันทุรังประกาศข้อบังคับที่เป็นการแทรกแซง การทำหน้าที่ กมธ. เช่นนี้ และอยากถามไปยังประธานสภาฯว่าตั้งแต่มีสภามาตั้งแต่ปี 2475 เคยมีประกาศแบบนี้ด้วยหรือ