“ตรีรัตน์” เตือนสติ ส.ส. ฝ่ายรัฐบาล ขอให้ยึดประโยชน์ส่วนรวม ชี้ หาก ม.44 ไม่มีจุดด่างพร้อย ก็ควรเปิดให้มีการศึกษา
(28 พ.ย. 62) นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส โฆษกคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงผลการลงมติในสภาผู้แทนราษฎร ที่พรรคฝ่ายค้านชนะฝ่ายรัฐบาล ในการตั้ง กมธ.วิสามัญ เพื่อศึกษาผลกระทบจากการกระทำ ประกาศและคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และการใช้อำนาจของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติตามมาตรา 44 ว่า ผมขอเรียกว่าเป็นชัยชนะของประชาชน นี่คือสัญญาและความตั้งใจของผู้แทนพรรคฝ่ายค้านที่ตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่สุดความสามารถ ตามที่เราได้ให้คำมั่นกับพี่น้องไว้ นี่คือภาพแห่งการร่วมมือร่วมใจ
นี่คือกระบวนการตรวจสอบถ่วงดุลฝ่ายบริหารโดยรัฐสภา ตามกติกาประชาธิปไตย เพราะที่ผ่านมากว่า 5 ปี รัฐบาล คสช. ได้ออกประกาศ คำสั่ง ตามมาตรา 44 หลายฉบับที่ส่งผลต่อชีวิตของผู้คนจำนวนมาก ซึ่งอาจส่งผลต่อความเสียหายต่อประเทศด้วย อาทิ กรณีเหมืองทองอัครา หรือกรณีใช้คำสั่ง มาตรา 44 เพื่อย้ายข้าราชการกว่า 400 ตำแหน่ง ตามอำเภอใจ หรือไม่ ซึ่งหลายท่านคงทราบกันดีอยู่แล้วว่า มาตรา 44 นั้น เป็นเสมือนกฎหมายเผด็จการ เพราะคำสั่งที่ออกนั้นไม่ต้องผ่านกระบวนการยุติธรรมใดๆทั้งสิ้น ทำให้หัวหน้า คสช. หรือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สามารถมีอำนาจทั้ง บริหาร-นิติบัญญัติ-ตุลาการ ในคนๆเดียว
หากพิจารณาตามข้อเท็จจริงแล้ว เสียงของซีกรัฐบาลมีเหนือกว่าฝ่ายค้าน แต่ผลการลงมติออกมาปรากฏว่าฝ่ายค้านชนะ แล้วรัฐบาลดันทุรังให้มีการนับคะแนนใหม่ ซึ่งไม่ใช่ครั้งแรกที่รัฐบาลแพ้โหวตฝ่ายค้าน เพราะฉะนั้นเสถียรภาพรัฐบาลมีปัญหาแน่นอน จากคะแนนปริ่มน้ำที่พยายามลากกันมาตั้งรัฐบาลตั้งแต่ต้น แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม หาก ส.ส. ฝ่ายรัฐบาลตั้งใจมาทำหน้าที่ก็คงไม่มีปัญหานี้เกิดขึ้น แต่สิ่งที่ผมอยากจะชี้ให้เห็นจากสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวาน (27 พ.ย. 62) คือ ความพยายามของรัฐบาลที่จะปกป้องผลประโยชน์ของ คสช. มากกว่าที่จะปกป้องผลประโยชน์ส่วนรวมของประชาชน โดยพยายามจะลากเอามติที่ตัวเองแพ้ ให้ออกลูกเป็นมติใหม่ตามใจตัวเอง ด้วยข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้น
“จึงอยากฝากเตือนสติ และขอเรียกร้องให้ ส.ส. ฝ่ายรัฐบาลให้ท่านรักษาศักดิ์ศรีความเป็นผู้แทนราษฎรของตัวเอง และเพื่อนสมาชิก ให้เคารพมติของที่ประชุม เพื่อสร้างบรรทัดฐานที่ดีให้กับคนรุ่นหลัง ด้วยความสำเหนียกถึงประชาชนที่ยื่นโอกาสให้กับเรา”
ถ้ามั่นใจว่าประกาศ คำสั่ง มาตรา 44 ชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีจุดด่างพร้อย ไม่สร้างบาดแผลให้ใคร ก็ไม่ต้องกลัวหรือกังวลใดๆ เพราะท่านเป็นคนอ้างความชอบธรรมเหล่านั้นมาโดยตลอด และเมื่อวันนี้เรามีผู้แทนจากประชาชนแล้ว อำนาจจาก Power ของคนๆเดียว ไม่ควรใหญ่ไปกว่าอำนาจอธิปไตยจากปวงชนชาวไทย