“เพื่อไทย” ยืนยัน เจตจำนงทำเพื่อประชาชน ชี้ โหวตตั้ง กมธ. ศึกษาผลกระทบ ม.44 ทำถูกต้องทุกอย่าง สภาล่มจะมาโทษฝ่ายค้านไม่ได้

(28 พ.ย. 62) คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่พรรคฝ่ายรัฐบาลขอลงมติตั้งกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาผลกระทบจากการใช้มาตรา 44 ใหม่ โดยระบุว่า หากเป็นวาระปกติจะต้องมีเหตุขัดข้องทางเทคนิค แต่สิ่งที่เกิดขึ้นปรากฏว่าเป็นการลงมติแพ้แล้วขอลงคะแนนใหม่ เชื่อว่าเป็นเรื่องการทำเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องถามสังคมว่าถูกต้องหรือไม่ เพราะพรรคฝ่ายค้านรวมถึงพรรคเพื่อไทยมีจุดยืนต้องการให้ตั้งกรรมาธิการวิสามัญฯชุดนี้ และสามารถลงมติเป็นฝ่ายชนะ ดังนั้น หากฝ่ายรัฐบาลต้องการนับคะแนนใหม่ ขอให้ไปนับกันเอง ทางฝ่ายค้านคงไม่ไปร่วมด้วย

โดย ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ยืนยันว่าวิธีปฏิบัติของฝ่ายค้านไม่ใช่การตีรวน เพราะชัดเจนว่าฝ่ายค้านได้เสนอญัตติตั้งกรรมาธิการวิสามัญฯ และลงมติชนะแล้ว ซึ่งเป็นการแสดงเจตจำนงอย่างชัดเจน

“พรรคฝ่ายค้านได้แสดงเจตจำนงอย่างชัดเจน โดยเฉพาะการลงมติต้องการให้ตั้งกรรมาธิการวิสามัญฯ และไม่เห็นด้วยกับการให้ลงมติใหม่ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ไม่มีเหตุผลและไม่ถูกต้อง หากพรรคฝ่ายรัฐบาล อยากนับก็ไปนับของคุณเอง และเชื่อว่าคุณก็ไม่มีปัญญาที่จะนับของคุณให้ครบ สภาพก็เป็นอย่างที่เห็น”

คุณหญิงสุดารัตน์ ยืนยันว่าพรรคฝ่ายค้านทำงานคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชน พร้อมให้เกียรติและรักษาภาพลักษณ์ของสภามาโดยตลอด ดังนั้น การที่สภาล่มจะมาโทษฝ่ายค้านไม่ได้

ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าพรรครัฐบาลเปิดดีลขอ ส.ส. พรรคเพื่อไทย 20 คน คอยสนับสนุนในบางเรื่องนั้น คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า เป็นไปไม่ได้ เป็นการละเมอเพ้อพกของคนในฝ่ายรัฐบาล ซึ่งพรรคเพื่อไทยทำงานอย่างตรงไปตรงมา และชนะเลือกตั้งเป็นที่ 1 ของประเทศไทย แต่ด้วยกติกาที่ถูกซ่อนไว้ จนไม่ได้ทำหน้าที่เป็นรัฐบาล แต่ก็ยังเดินหน้าเป็นฝ่ายค้านอย่างมีเหตุมีผล เรื่องอะไรที่เป็นผลเสียและไม่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน พรรคฝ่ายค้านต้องทำหน้าที่

“วันนี้เราต้องทำงานอย่างซื่อสัตย์ต่อประชาชนเราไม่มีทางไปรับเลี้ยงลูกของใคร หรือเราไปฝากใครเลี้ยง ซึ่งถือเป็นการละเมอเพ้อพกของใครบางคน ยืนยันว่าเป็นเกมการเมือง”
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว

ขณะที่ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวเสริมว่า การลงมติโหวตตั้งกรรมาธิการวิสามัญฯ นั้นถูกต้องทุกอย่าง ซึ่งไม่มีเหตุผลที่จะต้องนับคะแนนใหม่ พร้อมย้ำว่าการนับคะแนนใหม่ไม่ใช่การลงคะแนนใหม่ ตามที่ฝ่ายรัฐบาลพยายามเรียกร้อง