“สุดารัตน์” ท้า “ประยุทธ์” หาก ม.44 ดีจริง อย่ากลัวการตั้ง กมธ.ศึกษาผลกระทบฯ ชี้ ซื้องูเห่าขอเปิดประชุม ไม่ใช่ลูกผู้ชาย
4 ธ.ค. 62) คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี สภาผู้แทนราษฎรประชุมเพื่อพิจารณาตั้งกรร คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ มาธิการวิสามัญศึกษาผลกระทบจากการใช้มาตรา 44 โดยระบุว่าได้รับรายงาน ขณะนี้มีความพยายามที่จะซื้องูเห่าจากพรรคฝ่ายค้านเพื่อให้ องค์ประชุมครบและสามารถเปิดสภาได้
โดย คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวต่อว่า การกระทำเช่นนี้น่ารังเกียจสำหรับระบอบประชาธิปไตย จึงต้องตั้งคำถามว่านี่คือการปฏิรูปการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม และผู้มีอำนาจหรือไม่ เพราะการกระทำในลักษณะเช่นนี้ ต้องย้อนหลังไปเมื่อปี 2518 ที่มีรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ และจ่ายเงินเพื่อซื้อตัวอย่างโจ๋งครึ่มในสภา การกระทำเช่นนี้ยังเป็นการทำลายระบอบประชาธิปไตย เป็นการทำลายระบบที่ดีงาม
“ใช้เงินซื้อทุกอย่าง ซื้อ ส.ส. ซื้อเสียง แล้วจะบอกว่าไม่โกงคงไม่มีใครเชื่อ ดังนั้น ข่าวพยายามเพาะฟาร์มงูเห่าดังอื้ออึงในสภาทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะเปิดสภาได้ แบบนี้เป็นวิธีที่ไม่ใช่ลูกผู้ชาย เป็นวิธีการทำลายระบอบประชาธิปไตย เป็นการสร้างวัฒนธรรมที่เลวทรามในการใช้เงินซื้อทุกอย่าง เมื่อเริ่มต้นในการใช้เงินซื้อทุกอย่างก็ต้องเข้าไปโกงกันมันถึงจะอยู่กันได้”
คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุด้วยว่า หากรัฐบาลมีจิตสำนึกก็จะแก้ไขปัญหาตามระบอบประชาธิปไตย แต่เมื่อไม่มีจิตสำนึก ก็จะใช้อำนาจ ใช้เงิน เช่นการนำคดีไปข่มขู่ซึ่งพรรคเพื่อไทยถูกกระทำมาแล้ว และใช้เงินจูงใจนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
“หาก พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันว่ามาตรา 44 มีความจำเป็น และการใช้อำนาจดังกล่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติอย่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอ้าง จะกลัวอะไรกับการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ เพื่อศึกษาผลกระทบจากการใช้มาตรา 44 ดังนั้น หากการใช้มาตรา 44 เป็นผลดีอย่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ อย่ากลัว” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว