“เพื่อไทย” รวมพลแสดงความเห็นวันรัฐธรรมนูญ ย้ำ รัฐธรรมนูญกับปากท้องคือเรื่องเดียวกัน เศรษฐกิจที่ดีต้องมีรัฐธรรมนูญที่ยึดโยงความต้องการประชาชน
พรรคเพื่อไทย ออกแคมเปญ “10 ธันวา วันรัฐธรรมนูญของไทย กับ 10 มุมมองของคนเพื่อไทย” ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียของพรรค นำโดย นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรค นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคด้านการพัฒนาพรรค นายโภคิน พลกุล ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคด้านนโยบายและแผนงาน นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรค นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ประธานกลุ่มเพื่อไทยพลัส นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส. เชียงใหม่ และนางสาวจิราพร สินธุไพร ส.ส. ร้อยเอ็ด
โดย นายสมพงษ์ ระบุว่า วาทกรรมที่ว่า “รัฐธรรมนูญไว้ทีหลัง ปากท้องมาก่อน” สร้างขึ้นมาจากความบิดเบือน ทั้งๆที่สองเรื่องนี้เชื่อมโยงกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เศรษฐกิจจะดีได้ ต้องมีรัฐบาลที่ยึดโยงกับประชาชน พร้อมจะทำเพื่อประชาชน และการได้มาซึ่งรัฐบาลที่ตอบสนองประชาชน ก็ต้องเป็นรัฐธรรมนูญที่สร้างอำนาจให้ประชาชนได้มีสิทธิเลือก รัฐธรรมนูญปี 2560 ประชาชนถูกตัดสิทธิ ไม่มีสิทธิเลือก จึงได้รัฐบาลที่ประชาชนไม่ได้เลือก รัฐธรรมนูญที่ดีต้องเป็นเครื่องมือที่สร้างอำนาจให้ประชาชนให้เท่าเทียม ไม่ทำลายหลักสิทธิมนุษยชน และที่สำคัญต้องมาจากประชาชน จึงจะเรียกได้ว่ารัฐธรรมนูญที่สมบูรณ์แบบ
“ผมเป็นห่วงอนาคตของลูกหลานเราว่าจะอยู่กันอย่างไร เมื่อกติกาหลักของประเทศมันบิดเบี้ยว มันไม่เป็นธรรม พวกเขาจะเติบโตในสังคมที่ไม่เท่าเทียมกัน ขาดสิทธิ ขาดโอกาสในสังคม ถ้าพวกเขาไม่ใช่ลูกหลานของพวกสืบทอดอำนาจ” นายสมพงษ์ กล่าว
คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุว่า ประเทศไทยควรมีรัฐธรรมนูญที่ส่งเสริมให้ประเทศมีความเจริญก้าวหน้า ประชาชนอยู่ดีกินดี อยู่บนสิทธิเสรีภาพอย่างแท้จริง ไม่ใช่รัฐธรรมนูญที่มุ่งเน้นต่อการสืบทอดอำนาจในปัจจุบัน เราต้องการรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนที่แท้จริง และไม่ต้องการยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
นายพงศ์เทพ ระบุว่า หากจะพลิกฟื้นประเทศไทย ต้องมีรัฐธรรมนูญเพื่อประโยชน์ของประชาชนทั้งประเทศ ไม่ใช่รัฐธรรมนูญที่เป็นเครื่องมือสืบทอดอำนาจเผด็จการ
นายโภคิน ระบุว่า สังคมจะอยู่ได้หากมีกติกาและมีใช้อำนาจรัฐอย่างเป็นธรรม วันนี้ประเทศไทยเดินมาสู่จุดอันตรายที่สุด หากไม่รีบสร้างกติกาที่ประชาชนยอมรับ คงเห็นสันติสุขในสังคมไทย และความอยู่ดีกินดีของพี่น้องคนไทยได้ยาก
นายภูมิธรรม ระบุว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ได้ให้สิทธิ์กับประชาชนไทยในการเรียกคืนอำนาจการบริหารประเทศ แต่ให้สิทธิ์กับผู้มีอำนาจกลุ่มเดิมได้สืบทอดอำนาจต่อไปได้อย่างต่อเนื่องไม่รู้จบ ก่อนจะสายเกินไป ถึงเวลาแล้วที่จะต้องเปลี่ยนแปลง เปลี่ยนรัฐธรรมนูญให้เป็นของประชาชน
นายสุทิน ระบุว่า รัฐธรรมนูญเวียนว่ายตายเกิดมา 87 ปีแล้ว วันนี้อาการร่อแร่เพราะขาดการยอมรับจากประชาชน ซ้ำยังเป็นระเบิดเวลาที่คนไทยถืออุ้มเอาไว้อยู่ตลอดเวลา ซึ่งเชื่อว่าจะก่อให้เกิดวิกฤตสังคมในไม่ช้า เราไม่ยอมรับรัฐธรรมนูญที่มาจากอำนาจเผด็จการ
น.อ.อนุดิษฐ์ ระบุว่า รัฐธรรมนูญที่มาจากเผด็จการ ย่อมตอบสนองผลประโยชน์ของเผด็จการและพวกพ้องเท่านั้น เราทุกคนต้องร่วมกันช่วยกันแก้รัฐธรรมนูญลายพรางให้เป็นรัฐธรรมนูญของคนไทยทั้งประเทศ
ขณะที่ ส.ส. กลุ่มเพื่อไทยพลัส ซึ่งเป็น ส.ส. กลุ่มคนรุ่นใหม่ของพรรคได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเนื่องในวันรัฐธรรมนูญเช่นกัน โดยนายจุลพันธ์ ระบุว่า วันรัฐธรรมนูญจะไร้ซึ่งความหมาย ถ้าหากไม่มีประชาธิปไตยที่แท้จริง เราขอเรียกร้องให้มีการศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อคืนอำนาจประชาธิปไตยให้กับรัฐธรรมนูญ
ด้าน นายจักรพล ระบุว่า วันนี้ รัฐธรรมนูญที่คนไทยต้องการคงจะไม่ใช่รัฐธรรมนูญที่ดีที่สุด แต่เป็นรัฐธรรมนูญที่ประชาชนได้มีส่วนร่วมและทำเพื่อประชาชนมากที่สุด
นางสาวจิราพร ระบุว่า การมีรัฐธรรมนูญไม่ได้หมายความว่าประเทศปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยเสมอไป หลายครั้งที่เผด็จการใช้รัฐธรรมนูญเป็นฉากบังหน้า แต่เนื้อหาสอดไส้ความเป็นเผด็จการ เราต้องการรัฐธรรมนูญที่มาจากประชาชน