“เฉลิม” แถลงนั่งประธานกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทย เผย เตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ม.ค.นี้

(17 ธ.ค. 62) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานคณะกรรมการกิจการพิเศษ พรรคเพื่อไทย แถลงข่าวที่พรรคเพื่อไทย ว่า ทางพรรคได้แต่งตั้งตน และคณะรวม 10 คน เป็นคณะกรรมการกิจการพิเศษซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหัวหน้า และกรรมการบริหารพรรค ซึ่งที่ผ่านมา ตนและคณะได้ทำงานล่วงหน้ามาก่อนแล้ว เพื่อต้องการให้บ้านเมืองออกจากปัญหาความทุกข์ยาก ดังนั้น เราจึงต้องยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะ 1. เป็นรัฐบาลที่มีการทุจริตคอรัปชั่นมากที่สุด โดยใช้ สนช. เป็นเครื่องมือ ซึ่งตอนหลังแปลงร่างเป็น ส.ว. ลงทุนแก้กฎหมาย เสนอเช้า เย็นเสร็จ ทำให้รัฐสูญเสียภาษีกว่าแสนล้านบาท ในคดีฟิลลิป มอร์ริส 2. แก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ ล้มเหลว ทำให้มีคนจนมากขึ้น คนที่บอกว่า เศรษฐกิจประเทศดีมีแค่ 2 คน คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ เท่านั้น ที่ออกทีวีเมื่อไหร่บอกประเทศรวย ทั้งที่คนไม่มีจะกินอยู่แล้ว 3. เป็นรัฐบาลที่คนเห็นต่างทางการเมืองถูกทำร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า นักศึกษาแสดงออกตามระบอบประชาธิปไตยก็ถูกทำร้าย อย่ามาบอกว่าเป็นรัฐบาลประชาธิปไตย เพราะคุณเป็นรัฐบาลที่มาจากการสืบทอดอำนาจโดยตรง 4. การแก้ปัญหายาเสพติดไม่มีประสิทธิภาพ และ 5. ปล่อยให้คนในรัฐบาลทำผิดกฎหมาย รวมถึงเอาคนมีคดีสมัย กปปส. มานั่งเป็นรัฐมนตรีในหลายกระทรวง และขอฝากถึงนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ว่าเอากฎหมายที่ไหนมาพูด ซึ่งบิดเบือนและแก้ต่างให้คนในรัฐบาล

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า คณะกิจการพิเศษฯ จึงต้องเสนออภิปรายไม่ไว้วางใจ 1. พล.อ.ประยุทธ์ 2. นายสมคิด 3. นายวิษณุ และ 4. นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เรื่องฟิลลิป มอร์ริส โดยนายวิษณุจะเป็นเป้าสำคัญในการอภิปราย ซึ่งหลังจากตนแถลงข่าวแล้วขอให้ออกมาอธิบายเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นหน่อย ตนเสียดายที่ไม่ได้อภิปราย เพราะถ้าตนพูดเองรัฐบาลนี้เจ๊งแน่นอน

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวต่อไปว่า ตนขอถาม พล.อ.ประยุทธ์ 6 ข้อ คือ 1. ยกที่ดินยาสูบให้นายทุนทำอสังหาฯ แล้วปรับภาษีสรรพสามิต ทำให้บุหรี่ไทยมีราคาแพงเท่าบุหรี่นอก ทำให้คนหันไปสูบบุหรี่นอกหมด ทำให้โรงงานยาสูบที่เคยกำไรหมื่นล้าน กลายเป็นขาดทุนหลายพันล้าน 2. ให้กลุ่มนายเจริญ สิริวัฒนภักดี ต่อสัญญาเช่าศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยไม่เปิดประมูล 3. ให้ต่างชาติเช่าที่ดินรัฐ 99 ปี ประชาชนไม่เห็นด้วยก็เปลี่ยนให้เช่า 50 ปี แล้วต่อสัญญาได้อีก 49 ปี แบบนี้ก็เท่ากับเช่าได้ 99 ปี 4. ดึงโครงการทางด่วน รามอินทรา-อาจณรงค์ และ บางนา-ชลบุรี เข้ากองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ เอื้อประโยชน์ให้นายทุน 5. ข้าวดี ตีเป็นข้าวเสื่อม แล้วนำมาขายในราคาถูก และ 6. ที่ดินที่เกี่ยวพันกับบริษัทกฤษดามหานคร เส้นบางนา-ตราด หลายพันไร่ ก่อนหน้ามีการประเมินราคาเอาไว้ตารางวาละ 12,000 บาท หลังการบังคับคดีมีคนไปซื้อ ประเมินราคาได้ตารางวาละ 4,000 บาท เท่านั้น โดยการแบ่งที่เป็น 2 แปลง แปลงหนึ่งแพง อีกแปลงตีเป็นที่ตาบอด คนที่ประเมินซื้อได้คือบริษัทร่วมทุนของนายเจริญ ขอทราบว่าเหตุใดรัฐบาลจึงปล่อยปละละเลยให้กรมบังคับคดีทำเช่นนี้ ซึ่งเราจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจในช่วงวันที่ 6-10 มกราคม 2563

“เขาเอาเปรียบคนยากคนจนมากไป รัฐบาลนี้ไม่ใช่รัฐบาล 6 เดือน แต่จะ 6 ปี อยู่แล้ว ไปเสียเถิด บ้านเมืองจะได้ดีขึ้น ถ้าไม่ไป ก็ต้องอภิปรายไล่”  ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว