“เพื่อไทย” ปราศรัยใหญ่เลือกตั้งซ่อม ส.ส.ขอนแก่นโค้งสุดท้าย บรรยากาศสุดคึกคัก!

(19 ธ.ค. 62) พรรคเพื่อไทย จัดเวทีปราศรัยใหญ่ อำเภอหนองเรือ จังหวัดขอนแก่น ช่วยนายธนิก มาสีพิทักษ์ ผู้สมัคร ส.ส. ขอนแก่น เขต 7 หาเสียงโค้งสุดท้าย ที่จะมีการเลือกตั้งซ่อมในวันอาทิตย์ที่ 22 ธ.ค.นี้ โดยมีแกนนำพรรคมาร่วม อาทิ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรค นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน พร้อมด้วย ส.ส. อดีต ส.ส. และกลุ่มเพื่อไทยพลัส

โดย นายสมพงษ์ กล่าวว่า ได้เห็นบรรยากาศที่พี่น้องชาวหนองเรือมาฟังปราศรัยวันนี้อย่างคับคั่ง แล้วรู้สึกดีใจ ตอนนี้ประชาชนในประเทศกำลังอดอยากเพราะเงินในกระเป๋ามันไม่มี เพราะการบริหารประเทศของนายกรัฐมนตรี โดยใช้รัฐธรรมนูญที่คนร่างแบบบิดเบี้ยว ซึ่งก่อนหน้านี้ตนก็เคยย้ำและอยากจะบอกกับประชาชนว่าให้ปักป้ายชื่อและเน้นนามสกุลของคนร่างรัฐธรรมนูญและคณะขนาดใหญ่ ให้เห็นว่าหากรัฐธรรมนูญฉบับนี้ทำให้ประเทศเจริญประชาชนก็จะได้สรรเสริญ คน 80 กว่าคนที่ร่างรัฐธรรมนูญนี้มา แต่หากบ้านเมืองกำลังจะตกอับประชาชนก็จะได้รู้ว่าตระกูลของคนที่ร่างรัฐธรรมนูญ เป็นคนที่ทำให้บ้านเมืองยุ่งเหยิงและเสียหาย วันนี้สมควรแก่เวลาแล้ว ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ควรจะลาออกไป แล้วให้คนที่มีความสามารถมาบริหารประเทศ เพราะ 5 ปีที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นแล้วว่าบ้านเมืองถดถอยแค่ไหน และศึกเลือกตั้งซ่อมขอนแก่นครั้งนี้จะเป็นจุดชี้ว่ารัฐบาลควรจะไปต่อหรือไม่ 22 ธ.ค.นี้ ขอให้พี่น้องประชาชนตัดสินใจ

  
นายธนิก ขึ้นเวทีปราศรัยกล่าวว่า วันนี้มาขอโอกาสจากพี่น้องหนองเรืออีกครั้งให้ตนได้เข้าไปทำงานในสภาฯ เป็นตัวแทนเพื่อเป็นปากเป็นเสียงแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจปากท้องที่ย่ำแย่มากในขณะนี้ ทุกครั้งที่ได้ลงพื้นที่ไปพบปะพี่น้องหลายคนสะท้อนสารพัดปัญหาให้ฟัง ซึ่งตนก็ตระหนักและคิดว่าหากประเทศชาติยังย่ำแย่ ผู้นำประเทศไม่สนใจปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและดีแต่แจก อีกไม่นานประเทศชาติจะพังพินาศ ดังนั้นวันที่ 22 ธ.ค.นี้ โอกาสอยู่ในมือของพี่น้องทุกคนแล้ว โปรดให้โอกาสนั้นกับตนเองด้วย

นายสมชาย กล่าวว่า เราได้ ส.ส. จากการโหวตจากประชาชนมากที่สุด มีที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจระดับโลก มีคนทำงาน แต่เราไม่มีโอกาสได้ทำเพื่อแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชน เพราะปัญหามันอยู่ที่รัฐธรรมนูญ ดังนั้นวันนี้ตนจะส่งนายธนิก ไปแก้รัฐธรรมนูญให้เราได้กลับมาเป็นรัฐบาล นายธนิกต้องไปทำงานแทนเรา ไปทวงถามว่าที่บริหารมา 5-6 ปี ประเทศชาติเจริญไหม ถ้าไม่ได้ก็ออกไป ให้เราบริหารเอง พร้อมยืนยันว่านายธนิกไม่มีทางเป็นงูเห่า การเลือก ส.ส. ฝ่ายค้านไม่ใช่เข้าไปแล้วไม่ได้ประโยชน์ ตนเชื่อว่าประชาชนจะได้ประโยชน์ ด้วยการแก้ปัญหา เช่น ภัยแล้ง พร้อมกล่าวทิ้งท้ายว่าถ้าพี่น้องไม่ลืมเรา เราก็จะไม่ลืม ที่ทุกวันนี้พรรคลืมตาอ้าปากทางการเมืองก็เพราะพี่น้องชาวอีสาน แม้วันนี้จะไม่ได้เป็น ส.ส. และกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย แต่ก็จะอยู่เคียงข้างพรรคเพื่อไทยตลอดไป

นายสุทิน กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีคนนี้วุฒิภาวะต่ำ เคยชี้หน้าด่าตนในสภาฯ เพราะตนถามแทงใจดำว่าที่ผ่านมาทำให้ประเทศชาติดีขึ้นยังไงบ้าง ดังนั้นหากประชาชนเห็นว่าที่ผ่านมาดี ก็อยู่กับรัฐบาลชุดนี้ต่อไป แต่ถ้าเห็นว่าไม่ดีก็ให้เลือกพรรคเพื่อไทย เพื่อเข้ามาพัฒนาประเทศ ขณะเดียวกันรัฐบาลชุดนี้เข้ามาทำงาน ข้าวของแพงขึ้น สินค้าเกษตรถูกลง ส่งออกติดลบ แต่เจ้าสัวกลับรวยขึ้น

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ขอบคุณชาวหนองเรือที่ให้ความไว้วางใจพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้ง 24 มี.ค.ที่ผ่านมา ตนรู้ว่าตอนนี้พี่น้องประชาชนความทุกข์แน่นเต็มอก ตอนเลือกตั้งรัฐบาลสัญญาสารพัด ตั้งแต่เพลง “เราจะทำตามสัญญาขอเวลาอีกไม่นาน…” ก็ใช้เวลาไปแล้ว 5 ปี สินค้าเกษตรที่สัญญาไว้ก็ราคาตกต่ำไม่เป็นไปตามที่หาเสียง เงินเยียวยาภัยแล้งก็ยังไม่ได้ แต่เดี๋ยวประชาชนจะได้ เพราะแค่นายธนิกลงสมัคร รัฐบาลก็รีบประกาศจะจ่ายเงินภัยแล้ง แต่ยังไม่พอ เพราะถ้านายธนิกเข้าสภา จะไปทวงสัญญาให้หมดทุกอย่าง เช่น แก้ปัญหายาเสพติด มารดาประชารัฐ ค่าแรงขั้นต่ำ ค่าแรงอาชีวะและปริญญาตรี อีกทั้งบัตรคนจนก็ไม่ช่วยให้คนรวยขึ้น แต่ทำให้คนจนซ้ำ เจ้าสัวรวย อีกทั้งยังซื้อเรือดำน้ำเพิ่มอีก 2 ลำ ทั้งที่ประชาชนอดอยาก นายธนิกจะไปทวงเงินตรงนี้มาให้พี่น้องประชาชน นายธนิกเป็นลูกชาวนาแท้ๆ เข้าใจประชาชน และ 1 เสียงของนายธนิกจะไปไล่ พล.อ.ประยุทธ์ กลับไปดาวอังคาร ตนขอสัญญาว่าถ้านายธนิกชนะการเลือกตั้ง ตนและพรรคเพื่อไทยจะไม่ทอดทิ้งประชาชน จะตามไปอยู่เคียงข้างเพื่อแก้ปัญหา ช่วงนี้ได้ข่าวว่ามีการแจกเงินและให้ดื่มน้ำสาบาน แต่การดื่มน้ำสาบานคือเพื่อทำความดีแต่ถ้าขายเสียงคือทำบาป

อีกทั้งตนยังขอประกาศว่าข้าราชการปกครองที่นี่ยังวางตัวไม่เป็นกลาง ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่บ้าน นายอำเภอ และผู้ว่าราชการ พร้อมกล่าวอีกว่าถ้าวางตัวไม่เป็นกลางจำคุก 10-20 ปี อย่าให้ข้าราชการที่ไม่ดีมาหลอกเรา สิทธิในการเลือกตั้งเป็นของเรา อย่าไปกลัว บัตรเลือกตั้งกับใบเซ็นชื่อคนละใบกัน อย่ายอมให้ข้าราชการไม่ดีมาขู่ แล้วชาวบ้านจะส่งข้าราชการที่ไม่ดีไปเข้าคุก ถ้าใครเจอให้มาบอก แล้วตนจะจัดการเอง

ช่วงสุดท้ายคุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวด้วยน้ำตาคลอว่า ช่วงที่ผ่านมาตนได้ลงพื้นที่พบชาวบ้านสะท้อนถึงความทุกข์จากราคาผลผลิตการเกษตรตกต่ำ ตนสัมผัสได้ถึงความเดือดร้อนของประชาชน ตนอยากกลับมากินตำบักหุ่งกับประชาชนด้วยความสุขเหมือนในอดีต