“ตรีรัตน์” เสนอ 4 ข้อ ป้องกันฝุ่นพิษ ให้รมต.ศึกษาฯ-กทม. พร้อมจี้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาโดยด่วน

(16 ม.ค. 63) นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส เลขาธิการกลุ่มเพื่อไทยพลัส และอดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กถึงสถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่สูงในวันนี้ โดยระบุว่า สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 เวลานี้ดูจะยิ่งหนักหนาสาหัสเพิ่มขึ้น มาตรการจากภาครัฐในระยะยั่งยืนยังไม่เห็นเป็นรูปธรรม ส่วนมาตรการระยะสั้นก็ดูเหมือนจะทำได้เพียงเอาตัวรอดไปวันๆ สุดท้ายพี่น้องประชาชนก็ต้องใช้หลัก “ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน” ให้มากที่สุด ด้วยการดูแลตนเองให้รอดปลอดภัยจากฝุ่นจิ๋วที่ส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาวต่อไป ขณะที่หลายคนต้องล้มป่วยด้วยภาวะระบบทางเดินหายใจมีปัญหา รวมถึงคนในครอบครัวผมเอง

ล่าสุด กรมควบคุมมลพิษ ออกมาเตือนว่าวันนี้ 16 มกราคม ค่าฝุ่นอาจพุ่งสูงขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศที่ปิดมากที่สุดในรอบเดือนนี้ โดยเฉพาะช่วงเย็นที่การจราจรหนาแน่น ซึ่งจะมีการสะสมของฝุ่นและมลพิษสูงต้องระวังเป็นพิเศษ

ผมจึงขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลให้มีมาตรการแก้ไข และป้องกันปัญหานี้อย่างเร่งด่วนและยั่งยืน โดยสามารถดูจากตัวอย่างจากหลายประเทศไม่ว่าจะเป็นจีน อินเดีย (ที่ขึ้นชื่อเป็นประเทศที่มีค่ามลพิษสูงสุดในโลก) หรือประเทศอังกฤษ ที่แม้กรุงลอนดอนซึ่งเมืองหลวงที่ใหญ่ของเขา แต่กลับมีค่ามลพิษที่น้อยมาก ด้วยวิธีการควบคุมและบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพของเขา

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน ขอเสนอให้ทางกระทรวงศึกษาธิการ และกรุงเทพมหานคร ได้พิจารณามาตรการป้องกันดูแลนักเรียนที่ต้องเดินทางไปโรงเรียน และทำกิจกรรมนอกโรงเรียน ดังนี้

1. ขอเสนอให้รถเมล์ และป้ายประจำทางทุกป้าย สถานีรถไฟ และสถานีรถไฟฟ้า มีจุดรับหน้ากากป้องกันฝุ่น

2. ในวันที่ค่ามลพิษ PM 2.5 นั้นสูงกว่า 150 หรือเข้าระดับที่เป็นอันตราย ขอให้โรงเรียนพิจารณาเลิกการเรียนการสอนให้เร็วกว่าเวลากำหนด เพื่อให้เด็ก และนักเรียนได้กลับบ้านก่อนเวลาเร่งด่วน (ซึ่งค่าฝุ่นจะยิ่งเยอะขึ้นกว่าเดิม จากมลพิษรถติด)

3. ยกเลิกการเรียนการสอนวิชากลางแจ้งทั้งหมด หรือย้ายเข้าสอนในอาคารแทน

4. ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศในทุกโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่อันตราย

จึงขออนุญาตนำเสนอข้อเสนอทางเลือกทั้งหมดนี้ จนกว่าสถานการณ์ฝุ่นจะกลับสู่สภาวะปกติ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นข้อเสนอที่ทำได้ง่าย และดีกว่าการนิ่งเฉย จึงขอให้ทางรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโปรดรับพิจารณาข้อเสนอนี้ จะเป็นประโยชน์ยิ่ง