“สมพงษ์” ชี้ กรณี ส.ส. กดบัตรแทนกัน ส่งผลเสียหายต่อกระบวนการยุติธรรม ทำลายความเชื่อมั่นระบบรัฐสภา

(24 ม.ค. 63) นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีกดบัตรแทนกันของ ส.ส. พรรคร่วมรัฐบาล สะท้อนให้เห็นผลกระทบที่สำคัญ 2 ด้าน ทั้งทางด้านความเสียหายต่อเศรษฐกิจประเทศ และความเสียหายต่อบรรทัดฐานของการตีความกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมในสังคม

เนื่องจากการเสียบบัตรแทนกันครั้งนี้ เป็นการลงมติเพื่อเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2563 ซึ่งเป็นร่าง พ.ร.บ. ที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ดังนั้นเมื่อมีปัญหาที่ถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับความชอบในการตราพระราชบัญญัติฉบับนี้ อันจะส่งผลให้เกิดความล่าช้าของการประกาศใช้ พ.ร.บ.งบประมาณ ซึ่งจะส่งผลต่อความเสียหายทางเศรษฐกิจ ที่กระทบต่อเงินลงทุนของประเทศอย่างหนัก จึงนับเป็นเรื่องที่ใหญ่มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงที่ประเทศต้องการการขับเคลื่อนจากการลงทุนภาครัฐ ซึ่งถือเป็นความหวังเดียวที่เหลืออยู่ในการแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจขณะนี้ ซึ่งความล่าช้านี้ยังจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรง และสร้างความชะงักงันต่อเศรษฐกิจประเทศ

“ในความเห็นของผม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อกระบวนการยุติธรรมในสังคมอย่างยิ่ง เมื่อพิจารณาจากบรรทัดฐานในอดีตที่เราสามารถเทียบเคียงได้อย่างชัดเจนว่าการร่าง พ.ร.บ.งบประมาณครั้งนี้มีกระบวนการตราที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งจะส่งผลให้ พ.ร.บ. ฉบับนี้เป็นโมฆะได้”
นายสมพงษ์ กล่าว

ขณะนี้ทุกฝ่ายกำลังเฝ้าจับตามองว่า เหตุการณ์ในครั้งนี้จะคลี่คลายอย่างไร การบิดเบือนหรือการตีความใดๆ ในขณะนี้ ที่ต่างออกไปจากข้อสรุป และความเชื่อที่สังคมมีอยู่ น่าจะเป็นการทำลายความน่าเชื่อถือของกระบวนการยุติธรรมที่กำลังมีข้อกังขาอยู่ในปัจจุบัน

ดังนั้น กระบวนการแก้ไขปัญหาที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ไป ทุกองค์กรที่มีส่วนเกี่ยวข้องต้องยึดมั่นในหลักการตามกฎหมาย และตามบรรทัดฐานที่ถูกต้องที่เคยมีมาในอดีต เพื่อป้องกันมิให้เกิดความเคลือบแคลงและบั่นทอนต่อความเชื่อมั่นต่อระบบรัฐสภาไทย และต่อระบบกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรมไทย

สิ่งที่เป็นข้อพึงระวังคือ ทุกฝ่ายต้องไม่คิดแก้ไขปัญหาแค่เพียงการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเพียงเพื่อให้ พ.ร.บ.งบประมาณผ่านไปได้ โดยไม่คำนึงถึงผลเสียหายอย่างรุนแรงในอนาคตที่จะเกิดขึ้น

“ผมหวังว่าผู้ที่มีส่วนร่วมรับผิดชอบ ไม่ว่าจะเป็น ส.ส. ที่เสียบบัตรแทนเพื่อน ส.ส. ที่ฝากบัตรให้เพื่อนเสียบแทน หัวหน้าพรรคการเมืองที่มีสมาชิกกระทำผิด ประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายกรัฐมนตรี รวมทั้งคณะรัฐมนตรี ตลอดจนองค์กรอิสระที่เกี่ยวข้อง ต้องตระหนักถึงภาระความรับผิดชอบที่สำคัญนี้ ไม่ปล่อยให้ปัญหานี้จบลงด้วยวิธีการที่สร้างความเคลือบแคลงใจกับคนในประเทศ และทำลายความเชื่อมั่นของนานาประเทศเหมือนหลายๆครั้งที่ผ่าน…อย่าให้ประเทศเราต้องบอบช้ำไปมากกว่าที่เป็นอยู่เลยครับ” นายสมพงษ์ กล่าว