“ชลน่าน” แนะรัฐพูดความจริงกับประชาชน ชี้ ปัญหาไวรัสโคโรนา สะท้อนรัฐบาลไร้ความสามารถในการบริหารประเทศ

(30 ม.ค. 63) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมาต้องเผชิญปัญหาหลายรูปแบบทั้งสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ปี 2019 ที่ระบาดจากเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย สาธารณรัฐประชาชนจีน การเผชิญปัญหาฝุ่น PM 2.5 ปัญหาน้ำท่วมและปัญหาภัยแล้งที่รุนแรงและส่งผลกระทบอย่างกว้างขวาง วิกฤตที่เกิดขึ้นเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลชุดนี้ที่ไร้ประสิทธิภาพและประสิทธิผล ไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้ 

จากผลการแก้ปัญหาวิกฤตที่เกิดขึ้นปรากฏภาพชัดเจนว่า รัฐบาลชุดนี้ไร้ความสามารถในการบริหารประเทศในภาวะวิกฤต หรือไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ เพราะปัญหาการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ปี 2019 ที่เกิดขึ้นมีผลให้หลายประเทศประกาศภาวะวิกฤต แต่ประเทศไทยยังลอยไปลอยมา เอ้อระเหยไม่ประกาศภาวะวิกฤต ส่งผลให้การแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นมีบริบทที่แตกต่างกัน คือ เมื่อรัฐบาลมองว่าปัญหานี้ไม่สำคัญ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ต่างจากหลายประเทศที่มองปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาระดับชาติต้องระดมสรรพกำลังทุกหน่วยงานเข้าร่วมกันแก้ปัญหานี้ 

นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า จนถึงขณะนี้ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ปี 2019 สูงเป็นอันดับ 2 ของโลก แต่รัฐบาลก็มีข้ออ้างว่าเป็นคนจีน เพราะดูจากรายงานทางการแพทย์ว่าเป็นคนจีนที่เข้ามาอาศัยในประเทศไทยแล้วมาป่วยในประเทศไทย ซึ่งรัฐบาลเลือกที่จะไม่บอกความจริงกับประชาชน และสะท้อนถึงความไม่รู้ของรัฐบาลในการแก้ปัญหาหรือการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน 

“ผลที่เกิดขึ้นมาจากที่มาของรัฐบาลที่ไม่รู้เรื่องการบริหารประเทศ เพราะมีที่มาจากการรัฐประหารยึดอำนาจมา ทำลายหลักนิติรัฐนิติธรรม ทำให้ประเทศไทยขาดความเชื่อมั่นและขาดความน่าเชื่อถือจากนานาอารยประเทศ สภาวะเศรษฐกิจล้มเหลวไม่มีใครคบค้าสมาคมด้วย ต่อเนื่องมาจนถึงวิกฤตนี้แสดงให้เห็นชัดเจนว่า รัฐบาลไม่มีวุฒิภาวะและรู้ไม่ทันกับปัญหาที่เกิดขึ้น หนักที่สุดคือการไม่พูดความจริงกับประชาชน ทำให้ประชาชนขาดข้อมูลข่าวสารในการป้องกันตัวเอง รัฐบาลที่โกหกประชาชนไม่ควรเรียกว่ารัฐบาลของประเทศ แค่กลุ่มคนที่อยากมีอำนาจเท่านั้น” นพ.ชลน่าน กล่าว