“ภูมิธรรม” ชี้ รัฐบาลบริหารต่อเนื่องมา 6 ปี หากมั่นใจว่าทำประโยชน์ให้ประเทศ อย่ากลัวการอภิปรายฯ

(3 ก.พ. 63) นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร โพสต์เฟซบุ๊ก  Phumtham Wechayachai  ระบุว่า เมื่อ 6 ปีที่แล้ว เกิดขบวนการเพื่อล้มการเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ 2557 โดยใช้วาทกรรม “ปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง” เพื่อเปิดประตูให้มีการรัฐประหารรัฐบาลนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร  

รัฐบาลภายใต้การนำของคณะ คสช. ซึ่งได้รับการยอมรับจากผู้คนบางกลุ่มในสังคมไทยปล่อยให้ประเทศเดินถอยหลัง ยอมสูญเสียหลักการสำคัญหลายอย่าง เพียงเพื่อหวังที่จะฝ่าวงล้อมของวิกฤตการณ์ความขัดแย้งของคนในประเทศ โดยฝากความหวังว่า คสช. จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น

แต่นับจากปี 2557 จนมีการเลือกตั้งในเดือนมีนาคม 2562 ตลอด 6 ปี เรามีรัฐบาลที่ต่อท่ออำนาจมาจาก คสช. ซึ่งเป็นกลุ่มผู้มีอำนาจตัวจริงมาโดยตลอด มีการใช้อำนาจพิเศษที่เบ็ดเสร็จเด็ดขาด ต่อเนื่องมาจนกระทั่งรัฐบาลชุดปัจจุบัน และยังได้กำหนดทิศทางของประเทศ โดยกำหนดตัวบุคคล กฎเกณฑ์ กติกา ภายใต้รัฐธรรมนูญใหม่ซึ่งหลายเรื่องไม่สอดคล้องกับหลักการประชาธิปไตยแบบสากล แต่เพื่อสร้างกลไกในการสืบทอดอำนาจของกลุ่มตนและเครือข่ายด้วยข้ออ้างว่า ”จะปฏิรูปให้ดีขึ้น คืนความสุขสู่สังคมไทย” โดยมิได้คำนึงถึงความเสียหายต่อบรรทัดฐานที่ถูกต้อง

ดังนั้น การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลชุดปัจจุบัน จึงมิอาจหลีกเลี่ยงได้ที่จะต้องเชื่อมโยงกับรัฐบาลชุดก่อน ทั้งนี้เพราะผลจากการดำเนินนโยบายที่ผิดพลาด การบริหารงานที่ผิดพลาด ล้วนเกิดขึ้นจาก นายกรัฐมนตรี รวมถึง รัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งต่อเนื่องกันมาถึง 6 ปี โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีซึ่งวันนี้ควบคุมดูแลทั้งด้านเศรษฐกิจและความมั่นคง

ความล้มเหลวของรัฐบาลชุดนี้ในการบริหารประเทศ มีรูปธรรมชัดเจนเป็นผลงานเชิงประจักษ์ที่คนทั้งสังคมสัมผัสและรับรู้ ได้อย่างถ่องแท้ แม้รัฐบาลพยายามจะบอกว่าประสบความสำเร็จในการบริหารเศรษฐกิจ ตัวเลขจีดีพีเติบโต ทว่าในความเป็นจริงของชีวิตประชาชนส่วนใหญ่ต้องเผชิญกับการค้าขายที่ฝืดเคือง เงินในกระเป๋าลดลงจนแทบไม่มีเหลือ ธุรกิจส่งออกประสบปัญหาจากค่าเงินบาท ฯลฯ และความไม่มีประสิทธิภาพ “ไม่มีน้ำยา” ในการบริหารของรัฐบาลยิ่งปรากฏเห็นได้อย่างชัดเจน เมื่อประเทศเกิดวิกฤต ทั้งเรื่องฝุ่นละอองและการระบาดของไวรัสโคโรนา

“อย่ามัวหาเหตุข้อแก้ตัว ที่จะหลีกเลี่ยงการถูกอภิปรายเลยครับ…ถ้ามั่นใจว่า ได้ทำคุณประโยชน์มากล้นให้กับประเทศชาติและประชาชนไทย ก็เข้ามาชี้แจงให้ประชาชนเกิดความเข้าใจในวันที่สภาผู้แทนราษฎรกำหนดวันอภิปรายไม่ไว้วางใจได้อย่างเต็มที่นะครับ”