“วัฒนรักษ์” อัด “ประยุทธ์” แก้เศรษฐกิจไม่ได้ ยิ่งอยู่ยิ่งแย่ สร้างความเหลื่อมล้ำทางสังคมเพิ่มมากขึ้น
(12 ก.พ. 63) ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ อำนรรฆสรเดช กรรมการกิจการพิเศษ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 6 ปีที่ผ่านมา คนไทยต้องทำตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ได้มีคำสั่งออกมาทั้งสิ้น 456 ฉบับ และถึงแม้จะมี 246 ฉบับจะถูกยกเลิกไปแล้ว แต่ก็ยังมีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่ออกกฎหมายเพิ่มเติมอีก 412 ฉบับ ในระยะเวลา 5 ปี ซึ่งถือว่าสูงมาก และคำสั่ง ประกาศ และกฎหมายเหล่านี้ก็ยังคงมีผลบังคับใช้อยู่ ซึ่งถ้าหากเป็นฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลก็อาจจะถูกดำเนินคดีทางอาญาได้ตลอดเวลา โดยกฎหมายหลายข้อนั้นอาจจะไม่ถูกต้องตามหลักหลักนิติธรรม (The Rule of Law) จึงทำให้นักลงทุนต่างประเทศขาดความเชื่อมั่นต่อกฎหมายของประเทศไทย เพราะถ้าหากกฎหมายของเราจะมีการแก้ไขอย่างไรก็ได้ เมื่อไรก็ได้แบบนี้นักลงทุนคงจะหนีหมด จะมีใครหน้าไหนมาลงทุนกับเรา และถึงแม้ว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ฝ่ายค้านจะมีข้อมูลพร้อมหลักฐานชัดเจน แต่เสียงของฝ่ายรัฐบาลนั้นมีมากกว่า ดังนั้นก็คงไม่พ้นที่ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลจะโหวตช่วยเหลือกันเอง แต่สิ่งหนึ่งที่ประชาชนจะได้เห็นจากการอภิปรายในครั้งนี้ก็คือความเป็นจริงที่ว่าตลอดเวลา 6 ปีนั้น รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สร้างความเหลื่อมล้ำทางสังคมมากมายขนาดไหน
ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ กล่าวอีกว่า หลังการอภิปราย หากรัฐบาลจะแก้ปัญหาโดยการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) อย่างเดียวนั้นคงไม่เป็นการเพียงพอสำหรับการแก้ไขปัญหา เพราะตลอดระยะเวลา 6 ปี เป็นเครื่องพิสูจน์ได้แล้วว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ไม่สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและลดปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคมได้เลย ซึ่งตลอด 6 ปีที่ผ่านมานั้น การส่งออกของประเทศไทยมีอัตราเพิ่มขึ้นเฉลี่ยเพียงปีละ 2% แต่หากเราดูเพื่อนบ้านกลับเติบโตปีละกว่า 10% และขณะนี้การท่องเที่ยวของไทยกำลังได้รับผลกระทบ จากการที่นักท่องเที่ยวที่ลดลงเพราะไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่กำลังแพร่ระบาด โดยต่างชาติก็ไม่มาลงทุน และคนไทยก็ไม่ลงเงินเพราะไม่มีเงินในกระเป๋า ถ้าหากประเทศมีเศรษฐกิจดี จะทำให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งถ้าหากเป็นรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตยคงจะต้องรีบแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ เพราะหากทิ้งไว้นานเกินไปจะทำให้ยากต่อการที่จะแก้ไข โดยเราจะลดความเลื่อมล้ำของสังคมไทย เพื่อให้คนไทยทุกคนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ถึงเวลาแล้วที่คนไทย จะต้องเป็นผู้ตัดสินใจว่าประเทศนี้จะเดินหน้าอย่างไร เพราะตลอด 6 ปี ที่ผ่านมาเราต้องประสบพบเจอกับปัญหามากมาย ซึ่งหากเราไม่รีบดำเนินการแก้ไข ประเทศไทยจะอยู่ต่อได้อย่างไร