“ยุทธพงศ์” โหมโรงศึกซักฟอก แฉค่าโง่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ อภิมหาสัญญาเช่ายาวนาน 50 ปี
(16 ก.พ. 63) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม ในฐานะรองประธานคณะกรรมการกิจการพิเศษ พรรคเพื่อไทย แถลงข้อมูลก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เกี่ยวกับค่าโง่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ที่ใช้อภิมหาสัญญาเช่ายาวนานสูงสุดของประเทศไทยถึง 50 ปี ว่า เจ้าสัวรายใหญ่มีแผนดำเนินธุรกิจ New CBD Bangkok แต่โครงการนี้จะสมบูรณ์แบบไม่ได้ ถ้าเจ้าสัวไม่ได้เช่าพื้นที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เนื่องจากที่ผ่านมาเจ้าสัวลงทุนไปกว่า 1.5 แสนล้านบาท เพื่อทำธุรกิจ MICE ซึ่งเป็นธุรกิจที่เกี่ยวกับการจัดประชุมบริษัทข้ามชาติ การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัลโดยบริษัทออกค่าใช้จ่ายให้การประชุมนานาชาติ และการจัดนิทรรศการ ซึ่งนักท่องเที่ยวที่จะใช้บริการ MICE จะมีหลักในการเที่ยวแบบเฉพาะเจาะจง เพื่อเข้าร่วมประชุมบริษัทหรือประชุมนานาชาติ MICE จึงสามารถนำนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพในการใช้จ่ายสูงกว่านักท่องเที่ยวทั่วไป 3-4 เท่า ดังนั้น กลุ่มเจ้าสัวจะต้องเอาพื้นที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ให้ได้ เพราะต่อไปจะกลายศูนย์การประชุมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และอยู่ใจกลางกรุงเทพมหานคร เพื่อให้ธุรกิจครบวงจร
นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์สร้างขึ้นด้วยเงินของรัฐบาล สมัย พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เพื่อจัดประชุมเวิลด์แบงก์ โดยบริษัท NCC Management and Development เข้ามาดูแลเรื่องการประชุม ซึ่งหลังจากจัดประชุมไปแล้วจะต้องหาบริษัทเข้ามา รัฐบาลก็หาคนมาดูแลพื้นที่ตรงนี้ต่อโดยให้ NCC เสนอแผนการลงทุน และประโยชน์ตอบแทนมา ซึ่งตามสัญญาบริษัท NCC จะต้องสร้างโรงแรมมาตรฐาน 4-5 ดาว จำนวน 400 ห้อง , ที่จอดรถ 3,000 คัน , พื้นที่เชิงพาณิชย์ไม่น้อยกว่า 28,000 ตารางเมตร แต่เมื่อเวลาผ่านไปปรากฏว่า NCC ไม่ได้สร้างโรงแรม เท่ากับว่า NCC ผิดสัญญาตั้งแต่ตอนนั้น ดังนั้น ทุกอย่างต้องเป็นโมฆะตั้งแต่ตอนนั้น แต่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ เข้ามาต่อสัญญาให้เช่าเพิ่มอีก 50 ปี ซึ่งถือว่าเป็นอภิมหาสัญญาเช่าที่นานที่สุดของประเทศ เพราะรัฐบาลยังไม่เคยทำสัญญาให้เอกชนรายใดในประเทศเช่าได้นานขนาดนี้
นายยุทธพงศ์ กล่าวอีกว่า วิธีการเช่าศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ของเจ้าสัวสุดพิศดาร และพล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้ระมัดระวัง ไม่รอบคอบ และไม่เปิดให้มีการประมูลแข่งขันอย่างเป็นธรรม เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ฟังใครทั้งนั้น จะให้เจ้าสัวท่าเดียว เท่ากับ พล.อ.ประยุทธ์ เข้าไปพัวพันกับเจ้าสัวใช่หรือไม่ เพราะในสัญญาใหม่ก็เขียนอีกว่าจะสร้างโรงแรมอีก ตรงนี้จะไม่เรียกค่าโง่ได้อย่างไร เพราะในสัญญาเก่าก็ระบุว่าจะสร้างโรงแรมก็ยังไม่ได้สร้าง เรื่องนี้ไม่ต่างอะไรจากกรณีสัญญารถดับเพลิงที่สุดท้ายก็ต้องเลิกทำ อย่างไรก็ตาม หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะสามารถทำให้ยกเลิกอภิมหาสัญญาเช่า 50 ปีได้ นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลที่เกี่ยวกับการธุรกิจอีกมากที่เกี่ยวกับการทุจริต ซึ่งยังมีเจ้าสัวคนอื่นๆอีก ตนอยากให้ประชาชนได้ติดตามการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะเกิดขึ้น ทั้งนี้ ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ทนฟังเรื่องเลวร้ายของตัวเองไม่ได้ สัปดาห์หน้ายังมีเวลาที่จะไปพิจารณาลาออกก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยมีข้อมูล และพร้อมทำหน้าที่ตรวจสอบ