“ฝ่ายค้าน” ประกาศไม่ขอร่วมเป็นองค์ประชุม และร่วมลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจในวันพรุ่งนี้
(27 ก.พ. 63) ที่รัฐสภา แกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดยนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย นายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย ได้ร่วมกันแถลงข่าวภายหลังการปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ
โดย นายสมพงษ์ กล่าวว่า การวอล์กเอาท์ของฝ่ายค้าน เพราะเห็นว่ารัฐบาลไม่เห็นประโยชน์ของเวลาที่เหลืออยู่ เพื่อให้ประชาชนได้ทราบสิ่งที่ฝ่ายค้านจะอภิปราย ทั้งที่เหลือผู้จะอภิปรายถึง 5 คน และเวลาที่ตกลงกันว่าจะให้ฝ่ายค้านอภิปราย 21 ชั่วโมงนั้น การอภิปราย 1-2 วันก่อนหน้านี้เลยเวลา 24.00 น. ไป กว่า 3 ชั่วโมงครึ่ง จึงคิดว่าจะเป็นเวลาที่เกินจากกำหนดการเดิม ซึ่งนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ก็บอกให้ไปตกลงกัน เพื่อทำให้บรรยากาศราบรื่น แต่เมื่อฝ่ายรัฐบาลปฏิเสธก็คิดว่ารัฐบาลไม่เห็นความสำคัญของเวลาตรงนี้ หลังจากนี้ก็จะให้รัฐบาลดำเนินการต่อไป พรุ่งนี้ฝ่ายค้านจะไม่ร่วมโหวต และไม่อยู่เป็นองค์ประชุมโดยให้รัฐบาลโหวตกันเอง ถ้าคะแนนรัฐมนตรีทั้ง 6 คนไม่เท่ากัน ก็แสดงว่าเขาหักกันอยู่ ทั้งนี้ หาก ส.ส. คนใดจะไม่ทำตามแนวนโยบายนี้เราก็ไม่เอาโทษเพราะถือเป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส.
นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี 6 คน ขณะนี้อภิปรายไป 4 คน เหลือ 2 คน เมื่อรัฐบาลเสนอปิดอภิปรายก็ถือว่า การอภิปรายไม่ครบสมบูรณ์ เพราะยังไม่ได้อภิปราย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เช่นนี้จะให้ลงคะแนนได้อย่างไร และข้อตกลงที่ตกลงกันเป็นการตกลงเพียงคร่าวๆ สมัยตนเป็นประธานสภาฯ ก็ประนีประนอมกันตลอด แต่คราวนี้รัฐมนตรีไม่เข้าใจระบบสภาฯ นึกจะปกครองแบบทหาร สั่งอย่างไรก็ได้ แต่สภาฯ จะสั่งอย่างนั้นไม่ได้ ต้องใช้วิธีประนีประนอม และเมื่อการอภิปรายยังไม่สมบูรณ์เช่นนี้ ประธานวิปฝ่ายค้านก็ไม่สามารถกล่าวสรุปได้ ดังนั้นในวันที่ 28 ก.พ. ก็ให้ฝ่ายรัฐบาลโหวตไปฝ่ายเดียว และถือเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่เลวร้ายที่สุดตั้งแต่มีสภาฯ มา
ขณะที่ นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า คนที่จะอภิปรายยังเหลือ ส.ส. อดีตพรรคอนาคตใหม่อีก 3 คน เพื่อไทย 2 คน รวมถึงตนที่ยังไม่ได้สรุป ถือว่าเสียดายโอกาสมาก เราก็สู้อย่างถึงที่สุด เพียงแต่การบริหารเรื่องคน เวลาที่มีจำกัด บริหารล่วงหน้าไม่ได้ เลยออกมาคลาดเคลื่อนบ้าง ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการปรึกษาหารือกันตลอดของ 6 พรรคฝ่ายค้าน แต่พอมาถึงหน้างานก็จะมีการปรับเปลี่ยนอีกนิดนึง อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่าไม่มีความขัดแย้งกัน
ด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในการลงมติ 28 ก.พ. เชื่อว่าฝ่ายรัฐบาลจะพยายามดั้นด้นโดยตีความข้อบังคับเพื่อลงมติให้ได้ ส่วนจะชอบหรือไม่ชอบตามกฎหมายก็ขอให้รอดูกันต่อไป