“ฝ่ายค้านเพื่อประชาชน” เตรียมเดินสายเปิดอภิปรายนอกสภาทั่วประเทศ
(2 มี.ค. 63) ที่พรรคเพื่อไทย มีการประชุมแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้านเพื่อการมีส่วนร่วมของประชาชน (ฝ่ายค้านเพื่อประชาชน) เพื่อสรุปแนวทางการทำงานที่ผ่านมา
โดย นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านเราเห็นว่าเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะโทษกันไปมา แต่เป็นเวลาที่จะต้องลุกขึ้นสู้เพื่อประชาชนร่วมกันอย่างเป็นเอกภาพและเข้มแข็งดังเดิม เราเห็นตรงกันว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่ควรหยุดเพียงแค่ในสภาฯ เราจึงจะขอเปิดกิจกรรมอภิปรายนอกสภาฯ โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 1. การรวบรวมคำถามทั้งหมดที่ ส.ส. ได้อภิปรายถามและรัฐมนตรีไม่ได้ตอบหรือตอบไม่ครบ โพสต์ลงในเพจ “ฝ่ายค้านเพื่อประชาชน” และ 2. การจัดอภิปรายนอกสภาฯ โดยเราจะจัดทั่วประเทศ ซึ่งอาจจะแบ่งออกเป็น 4 ภาคอย่างที่เคยทำ
ด้าน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าวว่า การอภิปรายไม่เสร็จสมบูรณ์เป็นประเด็นที่พรรคร่วมฝ่ายค้านตั้งข้อสงสัย กฎหมายมีความยุติธรรมแล้วแต่คนบังคับใช้กฎหมาย หรือผู้นำยังขาดความซื่อสัตย์ยุติธรรม จากนี้พรรคร่วมฝ่ายค้านจะร่วมมือกันทำงานให้เข้มแข็งขึ้น อย่างไรก็ตามที่มีข้อกังขาเรื่องการไปตกลงกับรัฐบาลเพื่อไม่อภิปรายรัฐมนตรีบางคนนั้น ในฐานะที่ตนเป็นผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ ยืนยันว่าเราไม่ได้มีการสมยอมกันแต่อย่างใด เราคิดว่ามีเวลาถึงเที่ยงคืนถ้าไม่ปิดปากกันก็จะสามารถพูดจนจบได้ ส่วนเนื้อหาในการอภิปรายทางคณะทำงานของพรรคร่วมฝ่ายค้านเห็นว่ามีหลายประเด็น ที่รัฐมนตรีตอบไม่ตรงคำถาม เช่น กรณีการใช้ข้อความหรือภาพให้ประชาชนเกิดความเกลียดชัง หรือที่เรียกว่าไอโอ เรื่องนี้อยากเรียนถึงนายกฯ ให้เลิกทำเสีย บางเรื่องตอบไม่ได้ เช่น คดีความที่ออสเตรเลีย และภาษีบุหรี่ เป็นต้น
นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า เราพรรคร่วมฝ่ายค้านต้องหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น และทำงานร่วมกันในอนาคตต่อไป และจุดเริ่มต้นของพรรคฝ่ายค้าน เรารวมตัวกันเพราะมีเป้าหมายเดียวกันคือรักษาประชาธิปไตยและอยากให้ประชาชนได้รับการดูแล เราสู้กับผู้มีอำนาจรัฐที่ใช้อำนาจเกินขอบเขต ดังนั้นฝ่ายค้านเรายังมีจุดยืนร่วมกันและจะจับมือกันอย่างเข้มแข็ง พร้อมเดินหน้าต่อไป ทั้งนี้ฝ่ายค้านเห็นว่าการอภิปรายครั้งนี้ยังไม่เสร็จสิ้นตามรัฐธรรมนูญ ภาระหน้าที่ในการตรวจสอบรัฐบาลของฝ่ายค้าน ไม่ได้อยู่เพียงในสภาฯ เราจะต้องเดินหน้าตรวจสอบทั้งในและนอกสภาฯ โดยการร่วมมือกับประชาชน เพราะหากอาศัยเพียงมือในสภาฯ เราะไม่สามารถเอาชนะอำนาจของฝ่ายรัฐบาลได้ ทั้งนี้ไม่มีอะไรที่จะมาทำลายความรัก ความสามัคคีในการทำงานร่วมกันของพรรคฝ่ายค้านได้
ขณะที่ นายชัยธวัช ตุลาธน อดีตรองเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ย้ำว่า พรรคอนาคตใหม่ส่วนหนึ่งจะเดินต่อในนามของคณะอนาคตใหม่ อีกส่วนจะทำงานในสภาฯ อดีต ส.ส. ของอนาคตใหม่ เราได้ไปสัมมนาสรุปบทเรียนร่วมกัน ทั้งการทำงานในพรรคของเราเอง และการทำงานร่วมกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน ซึ่งเราจะเดินหน้าทำงานร่วมกันต่อไป ทั้งนี้แต่ละพรรคอาจจะมีบุคลิกที่ต่างกันออกไป แต่การผลักดันให้สังคมเดินหน้า น่าจะเป็นภารกิจร่วมกัน เพราะขณะนี้การเคลื่อนไหวของประชาชนเป็นสถานการณ์ที่แหลมคม เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจและรัฐบาลที่ไม่มีศักยภาพในการแก้ปัญหา ซึ่งพรรคฝ่ายค้านและภาคประชาสังคมจะต้องทำงานร่วมกันต่อไป