“วัฒนรักษ์” แนะ “ประยุทธ์” เปิดโอกาสให้ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ป้องกันปัญหาแฟลชม็อบบานปลาย
(5 มี.ค. 63) ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ อำนรรฆสรเดช กรรมการกิจการพิเศษ และหัวหน้าศูนย์ข้อมูลสารสนเทศ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากการที่นักเรียน นิสิตนักศึกษา และประชาชนทั่วไป จัดกิจกรรมแฟลชม็อบ มากว่า 2 สัปดาห์แล้วนั้น แต่ก็ไม่ได้สร้างความวุ่นวาย เนื่องจากกิจกรรมส่วนใหญ่เป็นระเบียบเรียบร้อย และเป็นการชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธ ซึ่งเป็นสิทธิที่ประชาชนพึงมีตามรัฐธรรมนูญ โดยผลจากการสำรวจสรุปความต้องการออกมาได้ว่า 1. อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 2. อยากให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ 3. ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ซึ่งถ้าหาก พล.อ.ประยุทธ์ เตรียมใช้กฎหมายความมั่นคงยุติการชุมชนุม เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ตามที่มีกระแสข่าวออกมานั้น จะถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ไม่ฉลาด เพราะอาจทำให้ปัญหาบานปลายใหญ่โต จนรัฐบาลอยู่ต่อไม่ได้
ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ กล่าวอีกว่า ในขณะนี้ประชาชนคนไทยกำลังกังวลเกี่ยวกับปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ซึ่งหน้ากากอนามัยขาดตลาด และหากหาได้ก็มีราคาแพงมาก ดังนั้นรัฐบาลควรเร่งผลิต หรือนำเข้าจากต่างประเทศให้มีปริมาณที่เพียงพอ เพื่อแจกฟรีให้กับประชาชน โดยใช้วิธีส่งไปรษณีย์ไปตามบ้าน จะได้เป็นการลดปัญหาการติดเชื้อและสะดวกแก่ประชาชน
ส่วนกรณีเรื่องแฟลชม็อบเป็นสิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องแสดงความจริงใจในการแก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้เห็น มิใช่เพียงแค่ตั้งกรรมาธิการวิสามัญแก้แฟลชม็อบ ซึ่งไม่มีประโยชน์ เพราะรัฐบาลเองก็ทราบถึงปัญหาอยู่แล้ว ดังนั้นควรเร่งแก้ไขให้ตรงจุด ถ้าหาก พล.อ.ประยุทธ์ อยากจะอยู่ยาวก็ควรทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ และประชาชนบ้าง เช่น เปิดให้โอกาสประชาชนได้มีส่วนร่วมร่างรัฐธรรมนูญ และตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ยกร่างกฎหมายจากความต้องการของทุกภาคส่วน รับฟังความเห็นจากนิสิตนักศึกษา และประชาชนเป็นหลัก และพล.อ.ประยุทธ์ ควรนำรัฐธรรมนูญ ปี 2540 กลับมาใช้เพราะเป็นการชั่วคราวก่อน เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็น “รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน” เพื่อที่จะสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนทั้งชาวไทยและต่างชาติให้กลับมาลงทุน เพราะหากเศรษฐกิจดีขึ้น ก็จะช่วยลดปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคมได้ และ พล.อ.ประยุทธ์ ก็คงไม่โดนไล่อีกต่อไป