11 เมษายน 2563 น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการดำเนินการจ่ายเงินเยียวยาประชาชน 5,000 บาทของรัฐบาลซึ่งนายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังยอมรับ 3 วันได้จ่ายไปเพียง 1.4 ล้านคนเท่านั้นว่า หมายความว่ายังมีผู้เดือดร้อนอีกจำนวนมากยังไม่ได้รับเงิน ซึ่งตรงกับที่พรรคเพื่อไทยได้รับร้องเรียนจากประชาชน ขณะ ส.ส.ของพรรคลงพื้นที่ โดยพบว่ายังมีกลุ่มอาชีพตกงานและขาดรายได้จากมาตรการของรัฐอีกหลายกลุ่มที่ยังไม่ได้รับเงินชดเชยอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะกลุ่มที่ต้องหยุดการประกอบอาชีพจากคำสั่งของเจ้าพนักงานปกครอง เช่น ผู้ประกอบอาชีพร้านเสริมสวย ร้านตัดผม ร้านสปา ร้านนวด โรงภาพยนตร์ โรงละคร ร้านอาหาร สถานบันเทิง ธุรกิจท่องเที่ยว มัคคุเทศก์ ฯลฯ หรือกลุ่มอาชีพที่มีรายได้น้อย ซึ่งรายได้ลดลงจากมาตรการของรัฐ เช่น แท็กซี่ วินมอเตอร์ไซค์ สามล้อเครื่อง รถสองแถว หาบเร่แผงลอย ลูกจ้างที่ถูกลดเงินเดือน ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่ไม่มีเงินสะสม และขาดรายได้มาหลายอาทิตย์ บางครอบครัวไม่เหลือเงินติดบ้านแล้ว และต้องรอเงินชดเชยจากรัฐบาล จึงหวังว่ารัฐบาลจะดำเนินการจ่ายเงินให้กับผู้เดือดร้อนทุกคนโดยเร็วที่สุด

นอกจากนี้ทราบว่ากระทรวงการคลัง เพิ่งจะจ่ายเงินเยียวยาล็อตแรกเท่านั้นและจะมีการทยอยจ่ายอีก อย่างไรก็ตาม ขอเน้นย้ำว่าเวลาถือเป็นเรื่องสำคัญ จึงขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและทีมงานทำงานแข่งกับเวลาเพื่อจ่ายเงินชดเชยให้กับประชาชน เพราะต้องยอมรับว่าประชาชนจำนวนมากเดือดร้อนพร้อมๆกันทั้งประเทศ จึงขอให้กำลังใจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและทีมงานทุกคน ให้สามารถแก้ไขปัญหาต่างๆให้ลุล่วง เพื่อให้เงินถึงมือประชาชนโดยเร็วที่สุด

“ขอยืนยันว่าไม่เพียงแต่พรรคเพื่อไทยจะช่วยให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับประชาชนเท่านั้น แต่พรรคเพื่อไทยจะให้ข้อมูลความเดือดร้อนที่แท้จริงของประชาชนกับรัฐบาลด้วย เพราะ ส.ส. ทุกคนอยู่ในพื้นที่จึงได้รับฟังปัญหาจากผู้เดือดร้อนโดยตรง อยากให้รัฐบาลเปิดใจกว้าง เพราะวันนี้ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้านย่อมยึดเอาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นหลัก จึงต้องเสนอทุกเรื่องอย่างตรงไปตรงมา อย่างกรณีล่าสุดที่ธนาคารกรุงไทยจะแจ้งให้ประชาชนที่ข้อมูลยังไม่ครบถ้วนมาลงข้อมูลเพิ่มเติม และแจ้งคนที่ไม่ผ่านเกณฑ์การคัดกรองล็อตแรก โดยธนาคารจะแจ้งผ่านเอสเอ็มเอสหรืออีเมลนั้น เป็นเรื่องที่ต้องชมเชย และพรรคเพื่อไทยจะช่วยกระจายข่าว แล้วหากประชาชนมีปัญหาเพิ่มเติมก็จะนำมาสะท้อน จึงขอให้มั่นใจว่าเราจะจับมือฝ่าวิกฤติโควิด-19 ไปด้วยกัน”