โฆษกพรรคเพื่อไทย แนะ รัฐบาลพิจารณา ทยอยปลดล็อกบางอย่าง เพื่อบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจ

13 เมษายน 2563 นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขอขอบคุณและขอแสดงความยินดีกับบุคลากรทางการแพทย์และระบบสาธารณสุขพื้นฐานของประเทศ รวมไปถึงความร่วมมือร่วมใจของพี่น้องประชาชนชาวไทยที่ทำให้เห็นสัญญาณการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ดีขึ้น คนไทยมาไกลและเสียสละในหลายๆเรื่อง เชื่อว่าจากนี้ไปพี่น้องประชาชนจะช่วยกันรักษาวินัยและให้ความร่วมมือในมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค เพื่อเฝ้าระวังไม่ให้มีการแพร่ระบาดกลับมาอีก ในส่วนของรัฐบาลก็ต้องเตรียมมาตรการในการทยอยปลดล็อกเพื่อให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจบางประเภทสามารถดำเนินการได้บนพื้นฐานของการปฏิบัติตามมาตรการขั้นสูงเข้มข้นของการควบคุมโรค 

“ตอนล็อกดาวน์ถูกตั้งข้อสังเกตว่ารัฐบาลไม่มีมาตรการรองรับที่ดีพอ จนปัญหาบานปลายกลายเป็นงานหนักของบุคลากรทางการแพทย์ในการควบคุมการแพร่ระบาด การทยอยปลดล็อกสำคัญไม่แพ้กัน ต้องมีมาตรการรองรับควบคู่ไปกับการเตรียมความพร้อมสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับประชาชน ระยะเวลาที่เสียไปในแต่ละวัน ทุกคนเดือดร้อน ถ้าไม่มีแผนรองรับในการทยอยปลดล็อก ปัญหาอาจขยายออกไปมากกว่าเดิม ผลกระทบทางเศรษฐกิจอาจวิกฤติมากกว่าผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19” 

สำหรับมาตรการเยียวยาให้กับผู้ได้รับผลกระทบ ที่ถูกวิจารณ์ว่าอาจไม่ทั่วถึงประชาชนทุกกลุ่มนั้น ได้เกิดแฮชแท็ก #ทําไมไม่ได้5พัน ทะยานติดอันดับต้นๆของทวิตเตอร์ เป็นสิ่งบ่งชี้ว่าเรื่องการจ่ายเงินเยียวยาว่าเป็นปัญหาใหญ่ของรัฐบาลและมีคนถูกทิ้งจากระบบการลงทะเบียนจำนวนมาก รัฐบาลใช้งบประมาณมหาศาลลงทุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและโครงสร้าง ICT จำนวนเงินมากกว่า 100,000 ล้านบาท แต่วันนี้ยังสับสนว่าระบบคัดกรองที่มีปัญหาใช้ AI หรือใช้สิ่งใดคัดกรอง บางคนทั้งชีวิตไม่เคยเกี่ยวข้าว ระบบกลับบอกว่าเป็นเกษตรกร ซึ่งความผิดปกติเช่นนี้เกิดขึ้นจำนวนมาก ผู้ที่ลงทะเบียนทั้ง 27 ล้านคนจะต้องตรวจสอบได้ว่าใครติดเงื่อนไขอะไรและสามารถเปิดเผยได้ ซึ่งรัฐบาลต้องรับผิดชอบระบบการคัดกรองที่มีปัญหาและพัฒนาระบบให้มีความถูกต้องเปิดเผยได้ ใช้บิ๊กดาต้าหรือการเชื่อมโยงฐานข้อมูลของรัฐหาผู้เดือดร้อนจากโควิด-19 ให้พบแล้วเร่งเยียวยาให้ถูกต้องและถูกคน