19 เมษายน 2563 นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายกรัฐมนตรีประกาศส่งจดหมายเทียบเชิญมหาเศรษฐีไทย 20 อันดับให้มาร่วมมือกันฝ่าวิกฤติโควิด-19 ว่าเปรียบเสมือนการคายฟันยางสารภาพว่ารัฐบาลหมดหนทางในการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่จะตามมาหรือไม่ ซึ่งการแก้เกี้ยวว่าไม่ได้มีเจตนาจะไปขอเงิน แค่เปิดรับฟังความคิดเห็นโดยตรงนั้นอาจฟังไม่ขึ้น เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ ใช้คำว่าจะร่วมมือหรือลงมือทำได้อย่างไรจากเศรษฐีนั้น คำว่าลงมือกับลงขัน มันใกล้เคียงกันมาก พอนักการเมืองฝ่ายตรงข้ามเสนอแนะความคิดเห็น ถูกเรียกมาปรับทัศนคติ แต่มหาเศรษฐีใช้คำว่าเชิญมาระดมความคิดเห็น พล.อ.ประยุทธ์ จะกลอนพาไป พูดไปเรื่อย หรือใครเขียนให้พูดก็ตาม แต่ประชาชนหวาดระแวง ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะขอความช่วยเหลือจากมหาเศรษฐี เพราะดูจากพฤติกรรมที่ผ่านมาของรัฐบาล ดูแล้วก็ไม่น่าไว้วางใจ

รัฐบาลฟังความเห็นได้จากสภาที่มีอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องมีสภาเจ้าสัวให้ประชาชนหวาดระแวงว่าจะมีผลประโยชน์ต่างตอบแทน เมื่อรัฐบาลได้รับการช่วยเหลือจากมหาเศรษฐีแล้ว รัฐบาลต้องเอื้อประโยชน์สิ่งใดเป็นการตอบแทนหรือไม่ ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ถือเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง นักธุรกิจที่เสียเปรียบมาโดยตลอดและไม่ได้รับเชิญก็อาจจะเสียเปรียบมากยิ่งขึ้น  ซึ่งเป็นการเลือกปฏิบัติ รัฐบาลกำลังสร้างความเหลื่อมล้ำขึ้นมาเสียเอง ถ้าต้องการรับฟังความคิดเห็นจริงๆ ไม่ควรจำเพาะเจาะจงเฉพาะมหาเศรษฐี ฟังจากนักวิชาการ ผู้มีความรู้ เจ้าของธุรกิจรายเล็กรายกลาง รวมถึงประชาชนที่เดือดร้อนเข้าไม่ถึงการเยียวยา 5,000 บาท แค่เปิดประตูใช้หัวใจฟัง อย่าปิดประตูใส่ชาวบ้านที่เดือดร้อน รัฐบาลก็จะได้ความคิดเห็นที่หลากหลาย