4 ปี 7 เดือน แห่งความล้มเหลว วิกฤติเศรษฐกิจทุกระดับชั้น
วันพรุ่งนี้ จะครบรอบ 4 ปี 7 เดือน ที่ประชาชนไทยถูกยึดอำนาจในการเลือกตัวแทนของพวกเขาเข้ามาบริหารประเทศ พรรคเพื่อไทย และประชาชน ต่างต้องอดทนอยู่กับสภาวะความล้าหลัง ล้มเหลว ถดถอย และสิ้นหวัง
แต่วันนี้ ไม่ใช่เวลาที่พวกเราจะต้องทนกับสภาวะความสิ้นหวังอีกต่อไป เพราะในระยะเวลาอีก 65 วันข้างหน้าที่จะถึงนี้ ประชาชนไทยจะมีโอกาสเข้าคูหาไปเลือกอนาคตของตนเอง ว่าจะ “เลือกทนอยู่กับความล้มเหลว” เช่นในช่วง 4 ปี 7 เดือนที่ผ่านมา หรือพวกเขาจะ “เลือกโอกาส” ในการมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
หนี้คนไทยท่วมหัว: หนี้ครัวเรือนเพิ่มสูงขึ้น 1.79 ล้านล้านบาท จากระดับ 10.55 ล้านล้านบาทในปี 2557 สู่ระดับ 12.34 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน
หนี้ธุรกิจท่วมตัว: หนี้เสีย SMEs เพิ่มสูงขึ้น 9 หมื่น 1 พันล้านบาท จากระดับ 1.38 แสนล้านบาทในปี 2557 สู่ระดับ 2.29 แสนล้านบาทในปัจจุบัน
เกษตรกรทุกข์ยาก: หนี้เสียเกษตรกรเพิ่มสูงขึ้น 1.79 หมื่นล้านบาท จากระดับ 4.09 หมื่นล้านบาทในปี 2557 สู่ระดับ 5.88 หมื่นล้านบาทในปัจจุบัน
นักท่องเที่ยวหาย รายได้หด: เหตุการณ์เรือล่มที่ภูเก็ตในเดือน ก.ค. พร้อมการจัดการวิกฤติความเชื่อมั่นที่ล้มเหลว ในระยะเวลาเพียงแค่ 3 เดือนให้หลัง (ส.ค.-ต.ค.) จำนวนนักท่องเที่ยวจีนลดลงกว่า 380,000 คน ทำรายได้จากการท่องเที่ยวหายไป 1 หมื่น 5 พันล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
เงินทุนไหลออกนอกประเทศไม่หยุด: ปี 2559 ไหลออก 3.6 แสนล้านบาท ปี 2560 ไหลออก 3.9 แสนล้านบาท
สู้ประเทศเพื่อนบ้านไม่ได้: ก่อนการรัฐประหาร (2556) ต่างชาติเลือกลงทุนในไทยเป็นอันดับ 3 ของอาเซียน มูลค่าการลงทุนสูงถึง 1.59 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ตามหลังแค่สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย แต่หลังรัฐประหาร (2560) ไทยตกไปอยู่อันดับที่ 6 ของอาเซียน มูลค่าการลงทุนหดตัวลงเกือบครึ่ง คิดเป็นเม็ดเงินเพียง 8.04 พันล้านเหรียญสหรัฐ ถูกเวียดนาม ฟิลลิปปินส์ และมาเลเซียแซงหน้าไปแล้ว
ใน 65 วันข้างหน้านี้ พรรคเพื่อไทยมีเป้าหมายหลักเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือ การนำเสนอ “โอกาส” ที่จับต้องได้จริง ให้แก่ประชาชนที่กำลังสิ้นหวัง ให้ประชาชนหลุดพ้นจากภาวะความล้าหลัง ล้มเหลว ถดถอย และสิ้นหวัง ที่มาขว้างกั้นอนาคตของพวกเขา
เราพร้อมที่จะนำประสบการณ์ และองค์ความรู้ที่สั่งสมมา ตลอดระยะเวลากว่า 17 ปี พาคนไทยออกจากความทุกข์ในครั้งนี้ไปให้ได้