ท่าทีพรรคเพื่อไทย กรณีการจัดตั้ง Single Gateway

ท่าทีพรรคเพื่อไทย กรณีการจัดตั้ง Single Gateway

​  นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์
นาครทรรพ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และนายอนุสรณ์
เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ได้ร่วมกันแถลงท่าทีของพรรคเพื่อไทย
ทีมีต่อกรณีการจัดตั้ง Single Gateway โดยมีรายละเอียด ดังนี้

  ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘
ให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น
กระทรวงยุติธรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการจัดตั้ง Single Gateway เพื่อใช้เป็นเครื่องมือควบคุมเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมและการไหลเข้าของข้อมูลข่าวสารจากต่างประเทศผ่านทางอินเตอร์เน็ต
​โดยให้ตรวจสอบข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ซึ่งหากมีความจำเป็นต้องออกกฎหมายเพิ่มเติมก็ให้เร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็วต่อไปด้วยนั้น
และให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการจัดตั้ง Single Gateway ตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวโดยด่วนต่อไป

​  ต่อมาเมื่อวันที่ ๔
สิงหาคม ๒๕๕๘
คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้หน่วยงานที่รับผิดชอบมาตรการและโครงการสำคัญต่างๆ
เร่งดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรมภายในปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๕๘
ซึ่งมติดังกล่าวได้รวมถึงเรื่องการจัดตั้ง single gateway ที่ให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นผู้รับผิดชอบ
ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๗ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๘
ได้สั่งการให้ส่วนราชการที่รับผิดชอบ รายงานความคืบหน้าการดำเนินการให้นายกรัฐมนตรีทราบภายในเดือนสิงหาคม
๒๕๕๘
และให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเร่งรัดการดำเนินการเรื่องดังกล่าวและรายงานความคืบหน้าให้นายกรัฐมนตรีทราบภายในเดือนกันยายน
๒๕๕๘ ต่อไปด้วยนั้น 

​  ตามเหตุผลที่คณะรัฐมนตรีกล่าวอ้าง
ถึงแม้ว่าโครงการดังกล่าวภาครัฐจะสามารถควบคุมดูแลการใช้อินเทอร์เน็ตของประชาชนได้อย่างเบ็ดเสร็จ
สามารถคัดกรองข้อมูลที่เป็นประโยชน์
และปิดกั้นข้อมูลที่ไม่เป็นประโยชน์ให้แก่ประชาชน
รวมถึงสามารถใช้คุณลักษณะของระบบเพื่อควบคุมเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมได้อย่างสะดวก
แต่โครงการดังกล่าวหากดำเนินการให้เกิดขึ้นจริง
เชื่อได้ว่าจะส่งผลกระทบด้านลบอื่นๆตามมาหลายประการด้วยเช่นกัน
เพราะจากข้อเท็จจริงที่ผู้เชี่ยวชาญด้าน IT จำนวนมากได้แสดงความเห็นไว้พบว่า
เมื่อประเทศไทยเปลี่ยนวิธีการสื่อสารทางอินเตอร์เน็ตระหว่างประเทศจากหลายช่องทางเป็นช่องทางเดียว
ข้อมูลจำนวนมากย่อมไหลเข้าออกในช่องทางเดียว
เมื่อไรก็ตามที่ปริมาณข้อมูลมีจำนวนมาก
เมื่อนั้นย่อมส่งผลให้ความเร็วในการให้บริการอินเทอร์เน็ตลดลง
และเมื่อไรก็ตามที่ช่องทางสื่อสารช่องทางเดียวเกิดปัญหาทางเทคนิคหรือ gateway
ล่มใช้งานไม่ได้ ความผิดพลาดดังกล่าวอาจส่งผลให้ระบบอินเทอร์เน็ตล่มทั้งประเทศ
และถ้าเป็นเช่นนั้น เหตุการณ์ในลักษณะนี้ย่อมส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อภาคธุรกิจ
ผู้ลงทุนทั้งหลายทั้งในและนอกประเทศย่อมขาดความมั่นใจและเกิดความรู้สึกไม่ปลอดภัยในการใช้บริการระบบอินเทอร์เน็ตในประเทศไทย
ซึ่งจะส่งผลให้ประเทศไทยอาจขาดโอกาสที่จะยกระดับขึ้นสู่การเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจดิจิทัลของอาเซียน
นอกจากนั้นการที่ประเทศไทยเปลี่ยนไปใช้ระบบการสื่อสารทางอินเตอร์เน็ตระหว่างประเทศช่องทางเดียว
หากผู้มีอำนาจดำเนินการควบคุมข้อมูลต่างๆอย่างไม่เป็นระบบและขาดมาตรฐานที่ชัดเจน การดำเนินการดังกล่าวอาจจะส่งผลกระทบต่อสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกและสิทธิในความเป็นส่วนตัวของประชาชน
เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าในระบบการสื่อสารช่องทางเดียวนี้
หากผู้มีอำนาจมีความประสงค์จะตรวจสอบหรือปิดกั้นข้อมูลต่างๆของผู้ใช้อินเทอร์เน็ต
และ social media ในประเทศไทย
ท่านก็สามารถดำเนินการได้อย่างไม่มีข้อจำกัด

​  จากเหตุผลที่กล่าวมาแล้ว
พรรคเพื่อไทยในฐานะของพรรคการเมืองที่เกิดขึ้นและเติบโตมาตาม กระบวนการประชาธิปไตยที่เคารพในสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกและการสื่อสารถึงกัน
สิทธิในความเป็นส่วนตัวของพี่น้องประชาชน ที่รับรองไว้ในรัฐธรรมนูญทุกฉบับ
ขอแถลงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับโครงการดังกล่าว
เพราะหากปล่อยให้มีการดำเนินการโครงการต่อไปพรรคเพื่อไทยเชื่อว่าจะเกิดผลเสียมากกว่าผลดีตามเหตุผลที่กล่าวไปแล้ว
โดยเฉพาะการควบคุมข้อมูลต่างๆของรัฐ มีความสุ่มเสี่ยงที่จะละเมิดสิทธิส่วนบุคคล อันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนที่พึงมีและควรได้รับการคุ้มครองโดยปราศจากเงื่อนไขตามหลักการของระบอบประชาธิปไตยอันเป็นสากล

​​​​​​​​พรรคเพื่อไทย

๑ ตุลาคม ๒๕๕๘