การพัฒนาสังคมในมุมมองของ “จิ๊บ อนุตตมา”

ประเทศไทยนั้น แม้ว่าจะมีความเจริญมากขึ้นเรื่อยๆ
แต่ปัญหาในด้านการพัฒนาและปัญหาด้านการศึกษายังคงเป็นปัญหาที่สำคัญที่สุดปัญหาหนึ่งของประเทศไทย
แม้แต่ในเขตกรุงเทพมหานครซึ่งเป็นเขตเมืองหลวง แต่ปัญหาด้านการศึกษาและการพัฒนามนุษย์ยังคงเป็นปัญหาที่ใหญ่ที่สุดปัญหาหนึ่ง

@ ก่อนอื่นช่วยแนะนำตัวเองด้วย

อนุตตมา : “จิ๊บ”
อนุตตมา อมรวิวัฒน์ ปัจจุบันทำหน้าที่รักษาการรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทยค่ะ ก่อนหน้านี้เคยลงสมัครรับเลือกตั้ง
ส.ส. เขตห้วยขวาง-วังทองหลางค่ะ หลังจากการเลือกตั้งปี 2554
ก็ได้มาดำรงตำแหน่งรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในสมัยท่านนายกฯ ยิ่งลักษณ์ จากนั้นก็ได้ไปช่วยงานที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ในตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการค่ะ
หลังจากนั้นก็ได้ไปเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังเป็นตำแหน่งสุดท้ายค่ะ

@ ในเขตพื้นที่ห้วยขวาง-วังทองหลาง จากการลงพื้นที่มีปัญหาอะไรที่สำคัญบ้าง

อนุตตมา : ต้องบอกว่ากรุงเทพฯ หากเรามองแบบผ่านๆ อาจจะเห็นว่าความเจริญอาจจะเข้าไปครอบคลุมทั้งกรุงเทพฯแล้ว
แต่จากการลงพื้นที่จริงๆแล้วยังมีอีกหลายๆ ด้านที่ยังขาดการพัฒนาค่ะ
โดยเฉพาะด้านการศึกษา และสาธารณสุข ซึ่งเป็นปัญหาหลักๆ ของกรุงเทพฯเลย แต่หากเราไม่เจาะลึกลงไปเราก็อาจจะไม่ทราบ
และปัญหาด้านการพัฒนาเหล่านี้ เป็นปัญหาในทุกชุมชนเลยค่ะ

@ ทราบมาว่าตอนนี้ ทำงานในส่วนของด้านการทำวิจัย และการพัฒนาของเด็กๆ ปัญหาที่พบมีอะไรบ้าง

อนุตตมา : ตั้งแต่เริ่มเข้ามาทำงานทางการเมืองสิ่งที่จิ๊บสนใจมาก คือ
เด็กๆ โดยเฉพาะด้านการพัฒนา ตอนนี้ก็ทำงานเป็นนักวิชาการอิสระ
เพื่อหาข้อมูลในการทำวิจัยเพื่อการพัฒนาด้านการศึกษาและการพัฒนาของเด็กๆไปด้วยค่ะ ซึ่งปัญหาที่พบมากที่สุดก็คือ
มาตรฐานทางด้านการพัฒนาการศึกษา และการดูแลเด็กๆในโรงเรียนหรือสถานดูแลเด็ก โดยเฉพาะเด็กๆ
ในวัย 3-5 ขวบ ซึ่งภาครัฐมีการเข้าไปดูแล
แต่อาจจะไม่สามารถดูแลได้อย่างทั่วถึงค่ะ
นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องของค่าตอบแทนที่มีให้กับอาชีพครูและผู้ดูแลเด็กๆ
เพราะอาชีพทางด้านนี้มีค่าตอบแทนที่ค่อนข้างน้อย ซึ่งเป็นปัญหาที่สำคัญอีกปัญหาหนึ่งค่ะ

@ เห็นว่าช่วงนี้ ลงพื้นที่ตามสถานดูแลเด็กอ่อนบ่อยมาก ไปร่วมกิจกรรมใด

 อนุตตมา : จริงๆ
เป็นงานที่จุดประกายมาตั้งแต่ทำงานด้านการเมือง
และมีโอกาสไปทำงานที่กระทรวงพัฒนาสังคมฯ ซึ่งถือเป็นงานในหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย
ทำให้ได้มีโอกาสใกล้ชิดกับเด็กๆ ทั้งเด็กอ่อนและเด็กที่โตขึ้นมาแล้วบ้าง
ทำให้ได้เห็นปัญหาเพราะแม้แต่สถานรับเลี้ยงของทางราชการก็ยังมีการใช้งบประมาณได้ไม่ทั่วถึง
และไม่ตรงจุดค่ะ ตอนนี้ก็ลงมาดูแลเด็กๆ
ลงมาเก็บข้อมูลเพื่อนำไปใช้ในการแก้ปัญหาและพัฒนา
เผื่อว่าในอนาคตหากมีโอกาสได้กลับมาทำงาน หรือประชาชนให้โอกาสทางพรรคเราจะได้แก้ปัญหาให้ได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้นค่ะ

@ สุดท้ายอยากจะฝากอะไรถึงพี่น้องประชาชน

อนุตตมา : ช่วงนี้เป็นช่วงที่เรากำลังปฏิรูป
จริงๆแล้วการปฏิรูปคิดว่าเป็นสิ่งที่ดี เพื่อที่เราจะได้มีสังคมที่ดีขึ้นในอนาคต
แต่ว่าการปฏิรูปก็ต้องปฏิรูปอย่างสร้างสรรค์ คือ ต้องมองไปในอนาคต
ประเทศเราจะก้าวไปได้ต้องมีการปรองดอง เข้าใจซึ่งกันและกัน และให้อภัยกัน เพื่อก้าวไปข้างหน้าสู่อนาคตของประเทศที่ดีขึ้นค่ะ

Categories: Interview