เพื่อไทยหวั่น สหรัฐ-อียู ใช้มาตรการกีดกันทางการค้าเหตุปัญหาค้ามนุษย์ติดเทียร์ 3
8 สิงหาคม 2558
มองผลกระทบเรื่องการที่สหรัฐจัดอันดับการแก้ไขปัญหาและปราบปรามการค้ามนุษย์ไทยที่เทียร์
3 อย่างไร
นายวิม : กรณีที่ประเทศไทย
ถูกสหรัฐจัดอันดับการแก้ไขปัญหาและปราบปรามการค้ามนุษย์อยู่ในระดับที่ไม่มีความคืบหน้า หรือ
เทียร์ 3 ติดต่อกันเป็นปีที่ 2 นั้น
หากมองถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตก็มองได้หลายมติ
เพราะประเทศที่ถูกสหรัฐจัดอันดับให้อยู่ระดับ เทียร์ 3หลายประเทศ
เช่น รัสเซีย อิหร่าน ลิเบีย เวเนซุเอลา แอลจีเรีย
ซีเรีย เยเมน เกาหลีเหนือ ซูดานใต้และซิมบับเว
ล้วนเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการกีดกันทางการค้าจากสหรัฐแล้วหลายประเทศ
โดยเฉพาะสินค้าส่งออกที่มีการใช้แรงงานผิดกฎหมายและปัญหาการค้ามนุษย์เป็นสำคัญ
แต่สิ่งที่ผู้ประกอบการส่งออกสินค้าไทยกังวัลอยู่ในขณะนี้ นอกจากมาตรการกีดกันทางการค้าจากสหรัฐแล้ว
ก็เกรงว่า ประเทศอื่น ๆในสหภาพยุโรปอาจใช้
เทียร์ 3 เป็นข้ออ้างในการชะลอการน้ำเข้าสินค้าจากไทย หรือ ใช้มาตรการกีดกันทางการค้าได้ในอนาคต
สำหรับประเทศไทยนั้น
หากถูกสหรัฐฯใช้มาตรการกีดกันทางการค้าอย่างจริงจัง คาดว่าในเบื้องต้นจะสร้างความเสียหายอย่างน้อย
1-2 แสนล้านบาทต่อปี โดยเฉพาะภาคการส่งออกสินค้าในอุตสาหกรรมการประมง อาหารทะเล
อาหารทะเลแช่แข็ง อาหารที่แปรรูปจากอาหารทะเล หากรวมถึงสินค้าอื่นๆ เช่น อุตสาหกรรมสิ่งทอและเสื้อผ้า
ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมต่อเนื่องกับการใช้แรงงานที่ถูกมองว่าเป็นปัญหาเรื่องการค้ามนุษย์
เพราะประเทศไทยใช้แรงงานต่างด้าวเป็นจำนวนมาก ก็จะยิ่งทำให้เกิดผลกระทบเป็นวงกว้างมากยิ่งขึ้น
ส่วนกรณีที่สหรัฐฯ มีกฎหมายห้ามมิให้รัฐบาลสหรัฐลงนามในสนธิสัญญาทางการค้ากับประเทศที่มีปัญหาด้านการค้ามนุษย์ในระดับ
“เทียร์ 3”นั้น หากเรามองย้อนอดีตไปเมื่อปี
2533-2535 ประเทศไทยถูกสหรัฐฯใช้มาตรการ 301
ในกรณีที่ประเทศถูกกล่าวหาว่ามีการละเมิดลิขสิทธิ์ด้านทรัพย์สินทางปัญญามากที่สุด
ซึ่งรัฐบาลในขณะนั้นก็พยายามเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาและยอม
ที่จะตั้งกรมทรัพย์สินทางปัญญาและเร่งดำเนินการปราบปรามผู้ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างต่อเนื่อง
แต่สหรัฐฯก็ยังใช้มาตรการในการกีดกันทางการค้ากับประเทศไทยอยู่ดี เพราะฉะนั้นการที่ประเทศไทยอยู่ในระดับเทียร์ 3
และสถานการณ์ทางการเมืองที่อยู่ในภาวะที่อ่อนไหวในขณะนี้ ก็เชื่อว่าไม่มีใครกล้าการันตีได้ว่าสหรัฐจะไม่ใช้มาตรการกีดกันทางการค้ากับประเทศไทย
คิดอย่างไรต่อประเด็นที่ว่าปัญหาการค้ามนุษย์นี้เกิดจากรัฐบาลที่ผ่านมาไม่ดำเนินการอะไร
นายวิม : การแก้ไขปัญหาและปราบปรามการค้ามนุษย์ ทุกรัฐบาลก็ได้แก้ไขเรื่องนี้มาโดยตลอด
แต่ปัญหานี้เป็นปัญหาที่ใหญ่และลุกลามมานานแล้วซึ่งการแก้ไขต้องใช้ระยะเวลา
และมีการจัดระบบในการแก้ไขซึ่งในรัฐบาลของนางสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยได้มอบหมายให้นายพงศ์เทพ
เทพกาญจนา เป็นเจ้าภาพในการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดร่วมกันเพื่อให้เกิดการบูรณาการในการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม
ดังนั้นรัฐบาลปัจจุบันซึ่งมีอำนาจในการดำเนินการอย่างเต็มที่กับปัญหาเรื่องนี้ก็ควรเร่งดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ปัญหาการค้ามนุษย์และการใช้แรงงานต่างด้าวอย่างผิดกฎหมายหมดไปจากประเทศไทย