ขายข้าวล็อตใหม่ให้ 1 ล้านตัน เป็นการขายแบบจีทูจีจริงหรือไม่ ใครได้ประโยชน์ใครเสียประโยชน์ ?

มีการเปิดเผยข่าวว่าคณะรัฐมนตรีได้มีมติรับทราบการลงนามสัญญาขายข้าวแบบจีทูจีหรือแบบรัฐต่อรัฐให้บริษัทคอฟโก้ของจีน 1 ล้านตัน แต่ผู้ซื้อต้องการข้าวฤดูใหม่ซึ่งไม่มีในสต็อครัฐบาล จึงต้องนำข้าวของเอกชนไปส่งให้ผู้ซื้อแทน

ผมไม่ค่อยมั่นใจว่าใครกันแน่ที่จะได้ประโยชน์จากการขายข้าวในลักษณะนี้ และมีข้อสงสัยหลายประการที่อยากตั้งเป็นประเด็นให้ช่วยกันคิด โดยไม่เรียกร้องให้

รัฐบาลออกมาชี้แจง เพราะเคยเรียกร้องให้ชี้แจงหลายเรื่อง เช่น การขายข้าวเสื่อมให้โรงงานผลิตไฟฟ้าและผลิตปุ๋ย ก็ไม่เคยได้รับคำชี้แจง ผมมีข้อสังเกตและข้อสงสัยดังนี้

1. การซื้อขายข้าวล็อตนี้เป็นแบบรัฐต่อรัฐหรือจีทูจีจริงหรือไม่ ซึ่งผมขอให้ช่วยพิจารณา 2 ประเด็น คือ (1) บริษัทคอฟโก(COFCO) มาซื้อขายข้าวในลักษณะที่เป็นรัฐหรือหน่วยงานของรัฐผู้ซื้อ(รัฐบาลจีน)

หรือในลักษณะที่เป็นการทำธุรกิจเอกชน เพราะความจริงแล้วบริษัทคอฟโก้ได้แปรสภาพเป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจแบบเอกชนและเป็นบริษัทที่ไปจดทะเบียนขายหุ้น(listed)ที่ตลาดหุ้นฮ่องกงมาหลายปีแล้ว นอกจากนี้ยังมีบริษัทในเครือคอฟโก้อีกหลายบริษัทที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ รวมทั้งบริษัท COFCO Rice เป็นบริษัทลูกที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์อีกบริษัทหนึ่งด้วย 

ข้อน่าคิดก็คือ ถ้าบริษัทคอฟโก้ต้องการซื้อขายแบบรัฐต่อรัฐจริงทำไมต้องระบุเงื่อนไขว่าต้องการข้าวฤดูใหม่เท่านั้น ทั้งๆที่คอฟโก้รู้ดีว่ารัฐบาลนี้ไม่มีข้าวฤดูใหม่เพราะไม่ได้รับจำนำและข้าวใหม่อยู่ในมือพ่อค้าเอกชนแล้วเกือบทั้งหมด และ(2) ข้าวที่รัฐบาลไทยตกลงขายให้คอฟโก้ก็ไม่ใช่ข้าวของรัฐ จึงมีผลเท่ากับขายข้าวของเอกชนใช่หรือไม่

2. ประเด็นทีผมสงสัยและขอเชิญชวนให้ช่วยกันวิเคราะห์ก็คือ ใครกันแน่ที่ได้ประโยชน์และใครคือผู้เสียประโยชน์? ผมขอเสนอให้ช่วยกันพิจารณาว่าจริงหรือไม่ดังนี้

ผู้ได้ประโยชน์ คือ 1. บริษัทคอฟโก้ได้ซื้อข้าวคุณภาพดีราคาถูกเพราะมีรัฐบาลไทยเป็นประกัน และ 2. ผู้ส่งออกข้าวไทยที่ได้ซื้อข้าวฤดูใหม่ไว้ในมือแล้วได้ขายข้าวในนามรัฐบาลไทย

ส่วนผู้เสียประโยชน์คือ 1. รัฐบาลไทยเพราะเสียโอกาสที่จะขายข้าวของรัฐที่มีอยู่ในสต็อคจริงๆ และต้องเสียค่าเก็บรักษาข้าวเหล่านี้ต่อไปอีก นอกจากนี้ยังต้องผิดชอบและรับภาระเสมือนเป็นผู้ขายอย่างแท้จริงเพราะถือว่าขายข้าวในนามรัฐบาลไทย และ

2. ชาวนาไทย เพราะได้ขายข้าวไปแล้วในราคาต่ำ

มีคำถามที่ควรได้คำตอบให้ชัดเจนก่อนที่รัฐบาลจะเซ็นสัญญาคือ การขายข้าวล็อตใหญ่นี้กำหนดราคาเท่าใด สูงหรือต่ำกว่าราคาตลาด ถ้าต่ำกว่าราคาตลาดรัฐบาลหรือผู้ส่งออกต้องรับภาระ ซึ่งเป็นประเด็นที่รัฐบาลนี้เคยแถลงว่าจะดำเนินการให้โปร่งใส ปิดเผยให้ประชาชนทราบนะครับ

คราวนี้ผมไม่ขอเรียกร้องและยังไม่ขอฟันธง แต่อยากขอให้ทุกฝ่ายช่วยกันคิดพิจารณาและเสนอแนะรัฐบาลให้ตัดสินใจให้ถูกต้องและเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติส่วนรวมจริงๆด้วยครับ

ยรรยง พวงราช

19 มกราคม 2559

Categories: Interview