‘โอฬาร’อุ้มจำนำข้าวช่วยคนจน จะมาคิดเรื่องกำไร/ขาดทุนไม่ได้
7 ต.ค. 59 ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นายโอฬาร ไชยประวัติ อดีตประธานผู้แทนการค้าไทย หนึ่งในพยานจำเลยคดีโครงการรับจำนำข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังสืบพยานว่า ตนได้ชี้แจ้งว่าโครงการรับจำนำข้าว เป็นนโยบายสาธารณะมีประโยชน์กับประชาชนไม่มีการขาดทุน เพราะการขาดทุนเป็นการดำเนินการของบริษัทเอกชนแบบธุรกิจ แต่รัฐเน้นช่วยเหลือให้ประชาชนให้กินดีอยู่ดี จึงต้องมีการทำโครงการเพื่อดูแลประชาชน เหมือนกับการทำถนน การทำรถไฟฟ้า และอื่นๆ อีกมากมาย จะดูเพียงการขาดดุลการคลังอย่างเดียวไม่ได้ จะต้องพิจารณาควบคู่กับการขยายตัวทางเศรษฐกิจไปพร้อมกัน เพราะเงินที่จ่ายตรงไปยังชาวนา นอกจากทำให้รายได้สุทธิของชาวนาดีขึ้น แต่ผลที่เป็นรูปธรรมชัดเจนคือด้านสังคมที่ลูกหลานชาวนาได้มีโอกาสเรียนหนังสือ ลดภาระหนี้สิน การก่ออาชญากรรมหรือยาเสพติดลดลง
นายโอฬาร กล่าวต่อว่า ชาวนาไทย 4 ล้านครัวเรือนหรือประมาณ 15 ล้านคนนั้น 98% เป็นคนยากจน มีแค่ 2% ที่มีรายได้เทียบเท่ากับชนชั้นกลางในเมือง ชาวนาเหล่านี้เป็นฐานปิระมิดของสังคมไทย ถ้าเราไม่ใส่ใจคนกลุ่มล่างของสังคม ไม่ลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจก็เหมือนเลื่อยฐานของปิระมิด จนกลายเป็นลูกข่างฐานเล็กหัวโต เมื่อใดที่ลูกข่างนี้หยุดหมุน ก็จะล้มลง เหมือนคนในเมืองกรุงระยะยาวแล้วก็อยู่ไม่ได้ เปรียบเสมือนกับประเทศที่ฐานรากไม่เข้มแข็ง เมื่อประเทศล้มแล้วก็ยากที่จะฟื้นกลับมา
“อยากอ้อนวอนอัยการอย่าพิจารณาคนส่งออกข้าวไม่กี่รายที่เป็นมหาเศรษฐี จงคิดถึงคนจนที่สุดคือชาวไร่ชาวนาบ้าง ไม่งั้นสังคมเราก็อยู่ไม่ได้” นายโอฬาร กล่าว
ที่มา : แนวหน้า