นายนพดล ปัทมะ อดีต รมว. ต่างประเทศ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่าเห็นฝ่ายผู้มีอำนาจระบุว่าถ้ากฎหมายพร้อม มีความปรองดอง ทุกอย่างลงตัว การเลือกตั้งน่าจะเกิดขึ้นในปี 61 นั้น ตนเห็นว่าโดยทั่วไปนักการเมืองไม่เดือดร้อนว่าจะมีการเดินตามคำสัญญาหรือไม่ เพราะผู้ให้สัญญา มีหน้าที่รักษาคำสัญญาของตนเอง เพื่อรักษาความน่าเชื่อถือ ถ้าทำตามคำพูด ความเชื่อมั่นเกิด ก็จะเอื้อต่อการทำงานของรัฐบาล ในขณะนี้ไม่มีใครรู้ว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นเมื่อใด แต่นักการเมืองและพรรคเพื่อไทยไม่ได้เดือดร้อน เพราะส่วนใหญ่ก็มีงานทำ

ตนเห็นว่าการเลือกตั้งไม่ใช่การให้โอกาสนักการเมือง แต่เป็นการให้โอกาสประชาชนที่จะมีสิทธิเลือกคนมาบริหารประเทศ ให้โอกาสเศรษฐกิจที่จะได้รับการแก้ไขเร็วขึ้น และที่สำคัญคือเมื่อประชาชนได้ออกเสียงของตนแล้ว ความปรองดองจะเกิดเร็วขึ้น ซึ่งล้วนเป็นผลดีต่อสังคมไทย  การเลือกตั้งจึงเป็นการปลดล็อคความขัดแย้ง ไม่ใช่เปิดประตูสู่ความวุ่นวาย

นอกจากนั้น ตนเห็นว่าการร่างกฎหมายที่นำไปสู่การเลือกตั้งนั้น สามารถทำทันเวลาได้ จึงไม่ควรเป็นเงื่อนไขทำให้การเลือกตั้งล่าช้าออกไป ประชาชนเข้าใจดีในเรื่องนี้ และถ้าดูผลโพลจะเห็นว่าประชาชนอยากเห็นการเลือกตั้งเกิดขึ้นในปี 61 เพราะจะมีผลดีตามมา “พรรคเพื่อไทยมีหน้าที่ชี้ให้เห็นประโยชน์ของการเลือกตั้งที่มีต่อส่วนรวม และเสียงสะท้อนของประชาชน และหวังว่าผู้ที่เกี่ยวข้องจะเห็นและได้ยินเสียงเหล่านั้น”