ไวรัสโควิด-19 อาจทุบ GDP ถึง 1%
(14 ก.พ.63) นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะอดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การระบาดของไวรัสโควิด-19 มีโอกาสที่จะกระทบกับอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หรือ จีดีพีในปีนี้ (63) ถึงร้อยละ 1 คิดเป็นมูลค่า 1.7 แสนล้านบาท หากรัฐบาลไม่สามารถบริหารจัดการและควบคุมการแพร่ระบาดได้ดีพอ และหากผลกระทบรุนแรงยืดเยื้อ รัฐบาลควรใช้มาตรการการเงินและการคลังกระตุ้นเศรษฐกิจในภาวะที่ประเทศไทยเจอปัญหารอบด้าน ทั้งการส่งออกที่หดตัวลงจากเงินบาทที่แข็งค่า และสงครามการค้า .
โดยมาตรการการคลัง กระทรวงการคลังควรเพิ่มตัวเลขการขาดดุลการคลังโดยวิธีการลดรายรับของรัฐบาลลงเล็กน้อย เช่น ลดภาษี หรือลดการจัดเก็บภาษีเข้ากองทุนน้ำมัน ซึ่งจะส่งผลดีกับเศรษฐกิจเร็วกว่าการขาดดุลด้วยวิธีการเพิ่มรายจ่าย เนื่องจากปัจจุบันจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 อยู่ที่ 3.2 ล้านล้านบาท และมีหนี้สาธารณะระดับที่ไม่สูงมากนัก ส่วนมาตรการทางการเงิน ควรดำเนินนโยบายดอกเบี้ยในอัตราต่ำลงต่อไปสักระยะ และดูแลอัตราแลกเปลี่ยน หรือค่าเงินบาทให้อ่อนค่าลง โดยควรอยู่ที่ประมาณ 31-32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถทางการแข่งขันให้กับผู้ส่งออกได้ ทั้งนี้เห็นว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยควรหารือกันอย่างใกล้ชิด
“คนที่รับผิดชอบนโยบายการเงินการคลัง คุยกันเสีย อย่าอ้างความเป็นอิสระ อย่าอ้างความไม่เกี่ยวข้องของสองนโยบายนี้ คนที่ดูแลนโยบายการเงินต้องฟังรัฐบาล หากคนหนึ่งเหยียบคันเร่ง คนหนึ่งเหยียบเบรก รถมันก็ไม่เคลื่อนไปข้างหน้า ” นายกิตติรัตน์ กล่าว