(20 ก.พ. 63) ที่รัฐสภา พรรคเพื่อไทย มีการประชุมเตรียมความพร้อมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ที่จะมีขึ้นในวันที่ 24 ก.พ.นี้ โดยมีผู้เข้าร่วมประชุม อาทิ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรค นายโภคิน พลกุล นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรค และตัวแทน ส.ส.พรรคเพื่อไทย

โดย น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า ขณะนี้ผู้อภิปรายในสัดส่วนของพรรคเพื่อไทยมีทั้งสิ้น 18 คน โดยหลังจากที่นายสมพงษ์กล่าวเปิดญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจเสร็จสิ้น นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย จะขึ้นอภิปรายเป็นคนแรก โดยใช้ข้อมูลของคณะกรรมการกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทย ที่นำโดย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานคณะกรรมการกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทย ซึ่งจะอภิปรายไปตามข้อเท็จจริง ตามความผิดในญัตติ ทั้งเรื่องการบริหารประเทศผิดพลาด ความฉ้อฉล การช่วยเหลือพวกพ้อง การปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริต ซึ่งไม่สามารถไว้วางใจให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี บริหารประเทศต่อไปได้

ด้าน นายสุทิน กล่าวว่า การอภิปรายครั้งนี้ต่างจากอดีตที่ใช้ผู้อภิปรายไม่มาก โดยใช้ซุปเปอร์สตาร์ 5-6 คน อภิปรายคนละ 2-3 ชั่วโมง โดยครั้งนี้จะทำงานเป็นทีมเวิร์ค มีการตัดเนื้อหาออกมาเป็นส่วนๆ ไม่ลากยาว เพื่อไม่ให้น่าเบื่อ ผู้อภิปรายทั้ง 18 คน จะใช้เวลาคนละ 20 นาทีถึง 1 ชั่วโมง ทั้งนี้ ขณะนี้เราพบการทุจริต 2 รูปแบบคือ 1. แบบที่มีเงินทอน มีใบเสร็จ ซึ่งไม่น้อยกว่า 6 กรณีที่สามารถยื่นต่อ ป.ป.ช. หรือยื่นดำเนินคดีอาญาได้ แต่เราจะรอฟังการชี้แจงของรัฐมนตรีก่อน หากเคลียร์ในประเด็นใดได้ก็จะไม่ยื่นเอาผิด และ 2. การทุจริตที่ไม่มีใบเสร็จ เป็นการทุจริตเชิงโครงสร้าง เป็นระบบที่ทำให้เกิดการทุจริตในระยะยาว เอื้อให้ทุนใหญ่ ซึ่งเราถือว่าเรื่องนี้เป็นการทุจริตที่ร้ายแรงกว่าแบบที่มีใบเสร็จ อย่างไรก็ตาม หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น ยังเชื่อมั่นว่าจะมีพรรคร่วมรัฐบาลยื่นคำขาดกับแกนนำรัฐบาลเหมือนสมัยพรรคพลังธรรมยื่นต่อพรรคประชาธิปัตย์แล้วพบจุดจบในเวลาต่อมา เรายังมั่นใจว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก