รู้จักหนองคายในสไตล์ “เอกธนัช อินทร์รอด”

รู้จักหนองคายในสไตล์ เอกธนัช อินทร์รอด”

จังหวัดหนองคายนับว่าเป็นหนึ่งในเมืองที่มีชื่อเสียงในระดับโลก
จากการถูกจัดอันดับโดยนิตยาสาร ”โมเดิร์น เมชัวริตี้” (Modern Maturity) ของสหรัฐอเมริกาว่า “เป็นแหล่งพักผ่อนที่สอง ติดอันดับสถานที่ดีที่สุดในโลก สำหรับผู้สูงอายุ ชาวอเมริกัน”
และยังได้รับการจัดอันดับให้เป็นอันดับที่ 7
ของเมืองที่น่ามาพักผ่อนที่สุดของโลก
วันนี้เราจะพามารู้จักจังหวัดหนองคายในมุมมองของนักการเมืองที่ทำงานในพื้นที่มายาวนาน
นายเอกธนัช อินทร์รอด อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดหนองคาย 3 สมัย

@ ในฐานะที่เป็นอดีต ส.ส. เจ้าของพื้นที่
และทำงานมายาวนาน ขอคำจำกัดความถึงจังหวัดหนองคาย

เอกธนัช: จังหวัดหนองคายถือว่าเป็นจังหวัดที่เงียบสงบมาก เป็นเมืองวัฒนธรรม
สังคมอยู่กันอย่างเรียบง่าย มีสถานบันเทิงน้อย อาชญากรรมต่ำ มีความปลอดภัยสูง
มีภูมิประเทศที่งดงาม ที่สำคัญเป็นเมืองที่มีพื้นที่เลียบชายฝั่งแม่น้ำโขง
ติดชายแดนประเทศลาวทำให้มีความสำคัญทางเศรษฐกิจครับ

@ ทราบมาว่ามีงานอดิเรกคือ การปั่นจักรยานในพื้นที่พรมแดนริมแม่น้ำโขง บริเวณนี้มีความน่าสนใจ น่าดึงดูดใจอย่างไร


เอกธนัช : จริงๆ แล้วต้องอธิบายก่อนว่า
ตอนเป็นสมาชิกสภาผู้แทนฯ สมัยแรกๆ นั้นก็ยังไม่ได้ปั่นจักรยาน แต่พอมีการรัฐประหารปี
2549 ก็เลยได้มีโอกาสลองปั่นดู เพราะมีเพื่อนๆ  มีชมรมที่ปั่นจักรยานกันอยู่แล้ว
ถนนหนทางในจังหวัดหนองคายนั้นค่อนข้างสะดวก
มีความปลอดภัยเพราะยังเป็นจังหวัดที่เงียบสงบ เริ่มแรกก็ปั่นแค่ไม่กี่กิโลเมตร
พอปั่นกันบ่อยๆวันเสาร์อาทิตย์บางครั้งปั่นไกล 50-70
กิโลเมตรก็มี ซึ่งมีข้อดีในการทำกิจกรรมนี้มากๆ คือ
ได้ลงไปสัมผัสชีวิตของชาวบ้านจริงๆ ได้พบปะพูดคุยกับชาวบ้าน รู้ถึงวิถีชีวิต
ความต้องการของพวกเขา ซึ่งเป็นหน้าที่ที่สำคัญที่สุดของการเป็นนักการเมือง
การปั่นจักรยานที่นี่ไม่น่าเบื่อเพราะสภาพแวดล้อมสวย อากาศดี  ริมฝั่งแม่น้ำโขงบางช่วงจะเห็นการทำเกษตรขั้นบันไดซึ่งสวยงามมาก พี่น้องประชาชนที่นี่ส่วนใหญ่จะทำไร่มะเขือเทศ ยาสูบ ผักกาดหอม พริกเล็บมือนาง
เวลาช่วงที่ออกผลผลิตสวยงามมาก เรียกได้ว่าเป็นที่ที่ไม่เคยเห็น (unseen)
ของหนองคายเลย

@ หนองคายถือเป็นเมืองที่ได้รับการจัดอันดับว่าน่าอยู่ที่สุดเป็นอันดับ
7 ของโลก คิดว่าเพราะอะไร

เอกธนัช: ผมคิดว่าเพราะบรรยากาศ สภาพแวดล้อม ความปลอดภัย เห็นได้จากการที่มีรัฐบาลต่างชาติเช่น รัฐบาลเกาหลี รัฐบาลญี่ปุ่น
เข้ามาเช่าพื้นที่เพื่อทำเป็นสถานที่พักผ่อนสำหรับผู้สูงอายุในวัยเกษียณ
ซึ่งเขาจะคำนึงถึงสภาพอากาศ สภาพแวดล้อม
ความปลอดภัยซึ่งเหมาะแก่การพักผ่อนจริงจังสำหรับผู้สูงวัย ที่สำคัญการเดินทางและเศรษฐกิจก็ค่อนข้างดีอีกด้วย

@ คิดว่าหนองคายควรพัฒนาไปในทิศทางใด จึงจะเป็นประโยชน์สูงสุดกับจังหวัดและประชาชนในพื้นที่

เอกธนัช: จังหวัดหนองคายเรามีสภาพแวดล้อมที่ยอดเยี่ยม
มีความปลอดภัย มีสถานบันเทิงน้อย ความปลอดภัยสูง ที่สำคัญคือเป็นเมืองวัฒนธรรม
ในความคิดของผมอยากให้การพัฒนาของจังหวัดหนองคายเป็นไปในแนวทางที่ยังคงรักษาวัฒนธรรม
ธรรมชาติและความปลอดภัยไว้ เพื่อที่จะคงความเป็นเมืองที่น่าอยู่ติดอันดับโลก

สำหรับเรื่องเศรษฐกิจนั้น จังหวัดหนองคายมีการค้าขายหลักๆ กับประเทศลาวเนื่องจากมีสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งแรก
และใกล้กับนครหลวงเวียงจันทน์ของประเทศลาว ซึ่งชาวลาวเขาก็ชอบที่จะค้าขายกับคนไทย น่าจะเพราะคุยภาษาเดียวกันรู้เรื่อง แต่การลงทุนระหว่างไทยกับลาวนั้นยังมีไม่มาก กลับเป็นการค้ากับจีนและเกาหลีที่เข้าไปลงทุนในประเทศลาวเสียมากกว่า
จึงคิดว่าเราควรส่งเสริมให้มีการลงทุนค้าขายระหว่างกันให้มากขึ้นเพราะ AEC ก็ใกล้เข้ามาแล้ว
ไทยเราสามารถที่จะใช้หนองคายเป็นช่องทางที่ดีในการส่งสินค้าผ่านลาวไปยังจีน
เวียดนามได้

จริงๆ แล้วเรื่องนี้ก็มีการพูดคุยกันมานานแล้ว ถึงขนาดเคยมีแนวคิดที่จะสร้างสะพานมิตรภาพไทย – ลาวที่หนองคายแห่งที่ 2 เพิ่ม
ซึ่งในสมัยท่านนายกฯ ยิ่งลักษณ์ก็เคยให้ทางจังหวัดเสนอทำแผนการสร้างว่าควรสร้างที่ไหนไปแล้ว
ซึ่งเดิมทีผลการเสนอนั้นให้สร้างห่างจากสะพานแห่งแรก 5
กิโลเมตร
แต่ในความเห็นของผมคิดว่า  อาจจะไม่ช่วยในเรื่องของความรวดเร็วในการขนส่งเพราะอยู่ใกล้กันเกินไป คิดว่าควรสร้างที่อำเภอท่าบ่อและควรสร้างเป็นสะพานที่ใช้ในการเดินทาง  ที่ไม่ใช่ในการขนถ่ายสินค้า
เพื่อลดปัญหาการจราจรบริเวณสะพานมิตรภาพแห่งที่ 1
ซึ่งช่วงเทศกาลนั้นรถติดนานมาก คนลาวนั้นเขาชอบมาใช้บริการของประเทศไทย
ทั้งการค้าและบริการสาธารณสุข อำเภอท่าบ่อห่างจากนครหลวงเวียงจันทร์เพียง 10 กิโลเมตร เพื่อขยายความเจริญให้ทั่วถึง  เพื่อให้การค้า
การท่องเที่ยวขยายตัว เพราะทางลาวก็กำลังสร้างแผนการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษบึงธาตุหลวงเช่นกัน

อีกเรื่องที่คิดว่ารัฐควรพัฒนาก็คือ การพัฒนาหนองคายให้เป็นเมืองสำหรับการพักผ่อนในวัยเกษียณของชาวต่างชาติ  เดิมทีนั้นเคยมีการเสนอโครงการนี้ไปในยุคของรัฐบาลพรรคไทยรักไทย  แต่ยังไม่ทันได้ทำ แต่ทางท่านผอ.โรงพยาบาลท่าบ่อ
ท่านได้ลองทำโครงการนำร่องส่วนตัวไปแล้ว  ก็ได้รับการตอบรับที่ดีมากทั้งจากชาวเกาหลี
และญี่ปุ่น อย่างที่ได้บอกไปว่าทุกวันนี้ความต้องการในเรื่องนี้ยังมีมาก
เพราะรัฐบาลต่างชาติก็เข้ามาเช่าพื้นที่ในจังหวัดหนองคาย เพื่อสร้างสถานที่พักผ่อนสำหรับผู้สูงอายุของประเทศเขาอยู่แล้ว

สุดท้าย อยากให้แนะนำจังหวัดหนองคายในฐานะแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งที่น่าสนใจของประเทศไทย

เอกธนัช: จังหวัดหนองคายเป็นจังหวัดที่น่าสนใจมาก เป็นเมืองที่มีสภาพภูมิประเทศ
ภูมิอากาศเหมาะสมแก่การพักผ่อน เป็นเมืองวัฒนธรรม มีความปลอดภัยสูง
นอกเหนือจากสถานที่ท่องเที่ยวที่ดังๆ แล้ว
อยากแนะนำแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นวัฒนธรรมและธรรมชาติ เช่น
วัดหินหมากเป้งของหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี ซึ่งเงียบสงบมีทิวทัศน์สวยงาม
ตั้งอยู่ริมฝั่งโขง วัดผาตากเสื้อ ซึ่งมีจุดชมวิวอยู่บนเขาภูพานน้อย
มองเห็นแม่น้ำโขง 2 สายบรรจบกัน สวยงามมาก  อีกที่ที่แนะนำคือวันถ้ำดินเพียง หรือ วัดถ้ำศรีมงคล ซึ่งมีถ้ำทางเดินใต้ดิน
ซึ่งชาวบ้านเรียกกันว่าเมืองบาดาล อยากให้พี่น้องประชาชนได้ลองมาเที่ยวที่จังหวัดหนองคาย
เชื่อว่าต้องได้ความประทับใจกลับไปกันแน่นอน

สุดท้ายอยากเชิญชวนพี่ๆเพื่อนๆ อดีต ส.ส.
มาลองปั่นจักรยานในพื้นที่ของแต่ละท่านครับ นอกจากจะได้ออกกำลังกายแล้ว
ยังได้สัมผัสพื้นที่ และพี่น้องประชาชนอย่างใกล้ชิด
เป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์มากๆครับ

ขอบคุณภาพจังหวัดหนองคายจาก http://www.painaidii.com/ , http://www.nongkhai.go.th/ , http://www.thongratblockprasan.com/