หลายคนคงเคยผ่านหูผ่านตามาบ้างกับคำว่า “FinTech” เนื่องจากข่าวเศรษฐกิจในช่วงนี้ มักเอ่ยถึงอยู่บ่อยๆ FinTech คืออะไร? ทำไมทั้งไทยและต่างประเทศถึงให้ความสนใจ?

FinTech นั้น มาจากคำว่า Finance + Technology = FinTech เรียกได้ว่าเป็นการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่โดยเฉพาะออนไลน์มาประยุกต์ใช้ในด้านธุรกรรมการเงิน ที่เราต้องศึกษาอย่างจริงจังและตื่นตัวถึงการเข้ามามีบทบาทของ FinTech ก็เพราะมันส่งผลอย่างมากต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค ตัวอย่างเช่นอะไรบ้าง?
•   การใช้โปรแกรม Streaming ในการซื้อขายหุ้น แทนการซื้อขายในห้องค้า
•   ใช้ระบบ Crowdfunding ระดมทุนผ่านระบบ Online ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการ SMEs และ Start Up
•   การโอนเงินออนไลน์ซื้อของผ่านมือถือ และแอพพลิเคชั่นต่างๆ
•   ชำระบิลต่างๆ ผ่าน 7-Eleven

เมื่อผู้คนสามารถทำธุรกรรมทางการเงินง่ายขึ้น อุตสาหกรรมต่างๆ ก็เปลี่ยนไป เพื่อให้สะดวกต่อผู้ใช้งานมากขึ้น เมื่อปีที่แล้ว อดีต CEO ของ Barclays (ธนาคารรายใหญ่ติดอันดับ 1 ใน 5 ของอังกฤษ) กล่าวว่า ใน 10 ปีข้างหน้าคาดว่าเหล่า Banker จะตกงานราว 50%

ธนาคารของไทยเองก็ตั้งกลุ่มขึ้นมาเพื่อวิจัย คิดค้น พัฒนา FinTech นี้เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของลูกค้าอย่างรวดเร็ว ล่าสุดบริษัทลูกของแบงก์ใหญ่สีเขียวรายหนึ่งก็เพิ่งชนะการประกวดแอพพลิเคชั่นด้านการเงินจากงานประกวด FinTech ระดับโลก Singapore FinTech Festival 2016 ที่ประเทศสิงคโปร์ โดยเป็นแอพพลิเคชั่นผ่านสมาร์ทโฟน จอสัมผัส เน้นให้ความช่วยเหลือผู้มีปัญหาทางสายตาให้สามารถทำธุรกรรมการเงินออนไลน์ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ธนาคารต่างชาติ เช่น เมย์แบงก์ ดอยช์แบงก์  ซิตี้แบงก์ ฯลฯ ก็ให้ความสนใจในแอพพลิเคชั่นตัวนี้

นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ได้เคยกล่าวไว้ว่า มั่นใจว่า FinTech จะเป็นกลไกที่ทำให้ผู้ใช้บริการลดต้นทุนในการเข้าถึงธุรกรรมทุกประเภท ซึ่งเมื่อต้นทุนลดลง อัตราผลตอบแทน เช่น ดอกเบี้ยเงินฝากจะเพิ่มขึ้น ดอกเบี้ยสินเชื่อจะต่ำลง

ล่าสุด Ant Financial Services ของ Alibaba ของจีน และ Ascend Money ของบริษัท CP ของไทย จับมือกันแล้ว โดยมีเป้าหมายจะพัฒนาบริการด้านการเงินทั้งออฟไลน์และออนไลน์ให้รองรับลูกค้า 100 ล้านราย ทั้งในไทยและอาเซียนภายในปี 2020 โดย Ant Financial Services เป็นธุรกิจ FinTech เกี่ยวกับการกู้ยืมเงิน โดยใช้ Big Data วิเคราะห์พิจารณาเงินกู้และจัดการโอนเข้าบัญชี  มีผู้ใช้ประจำกว่า 450 ล้านคนต่อปี เมื่อสองบริษัทยักษ์ใหญ่ร่วมมือกันก็ได้มีการวิพากษ์วิจารณ์ ว่าอาจส่งผลให้ FinTech รายเล็ก หรือเหล่า FinTech Start Up โตยากขึ้นเพราะส่วนแบ่งตลาดน้อยลง

เทคโนโลยีทางการเงินเช่นนี้ก็ใช่ว่าจะไม่มีข้อเสีย เพราะขึ้นชื่อว่า “ออนไลน์” นั้นเสี่ยงต่อการถูก “แฮก” (Hack) เจาะระบบทำสูญเงินอย่างง่ายดายได้เช่นกัน ดังเช่นข่าวเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ตู้ ATM ของธนาคารออมสิน 21 ตู้ ถูกโจรกรรมเงินในกล่องเงินเครื่องเอทีเอ็ม โดยใช้โปรแกรมมัลแวร์ เสียหายไปกว่า 12 ล้านบาท ไม่เพียงแต่ประเทศไทย เมืองเทคโนโลยีอย่างญี่ปุ่นก็โดนแบบเดียวกัน แต่เสียหายมากถึง 430 ล้านบาท!  นอกจากนี้ยังมี บังกลาเทศ อเมริกา เวียดนาม ที่เคยเจอปัญหานี้  แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะก็มี “Blockchain” เทคโนโลยีใหม่ที่เข้ามาเสริมด้านความปลอดภัยของข้อมูลที่เคลื่อนย้ายผ่านการออนไลน์จึงช่วยซัพพอร์ต FinTech ให้ง่ายต่อการปกป้องข้อมูลมากขึ้น

Blockchain เป็นรูปแบบการเก็บข้อมูล เมื่อมีธุรกรรมใหม่เกิดขึ้น ก็จะจัดธุรกรรมนี้ให้อยู่ในรูปของ “บล็อกข้อมูล” และแชร์บอกตัวอื่นๆ ไปแบบห่วงโซ่ โดยที่จะบอกว่าใครที่เป็นเจ้าของและมีสิทธิ์ในข้อมูลนั้นจริง เมื่อข้อมูลนั้นถูกบันทึกไว้ใน Blockchain และหากเกิดการแก้ไข หรือเปลี่ยนแปลง “ลายเซ็น” อิเล็กทรอนิกส์เพื่อความปลอดภัย ก็จะเปลี่ยนไปทั้งหมด หากลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ใดไม่เหมือนบล็อกที่อยู่ใน Blockchain แสดงว่ามีการปลอมแปลงข้อมูลทันที  ดังนั้นปัญหาข้างต้นจะไม่เป็นที่กังวลต่อไปในอนาคต หรือต่อให้เกิดปัญหาอีกก็สามารถตรวจสอบที่มาที่ไปง่ายขึ้น

ในยุคการสื่อสารออนไลน์ไร้พรมแดนเช่นนี้  ใครหรือบริษัทใดสามารถย่อการซื้อสินค้าและบริการมาไว้ในมือผู้บริโภคได้เพียงปลายนิ้วคลิก ก็ไม่ต่างจากการเพิ่มความเจริญก้าวหน้าให้บริษัท หมดยุคของการไปเดินช้อปปิ้งเบียดเสียดกันในห้างสรรพสินค้า หมดยุคของการเก็บเงินสดปึกใหญ่ไว้ในกระเป๋า หมดยุคของการเดินทางไกลหลายกิโลฯ เพื่อไปรอต่อคิวหน้าเคาน์เตอร์ เพื่อจ่ายหรือโอนเงินกับธนาคาร ขอเพียงมีคอมพิวเตอร์ หรือสมาร์ทโฟนที่ต่ออินเตอร์เน็ตสักเครื่อง นวัตกรรม FinTech ก็จะช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น

ที่มา
บทความจากคอลัมน์ The War Room. Post Today http://pantip.com/topic/34744904
http://www.bbc.com/news/business-34933960
http://techsauce.co/startup101/what-is-fintech/
สรุปสถานการณ์ฟินเทคในประเทศไทย ครึ่งปีแรก 2016 http://techsauce.co/news/thailand-fintech-startup-landscape-2016-q1/
http://techsauce.co/news/the-movement-of-thailand-fintech-club-and-national-fintech-sandbox/
www.krobkruakao.com/ข่าวเศรษฐกิจ/21581/ฟินเทค-พลิกโฉมบริการการเงินไทย.html
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1454047118
ตปท.รุมจีบฟินเทคไทย, หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ 23 พฤศจิกายน 2559
http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9590000084345
http://www.posttoday.com/world/news/433571
http://techsauce.co/startup-tools/understand-blockchain-in-5-minutes
http://thaipublica.org/2016/07/blockchain-revolution/