12 ปี กับ 3 นโยบายที่ยังอยู่ในใจประชาชนมาตลอด
2549 จนถึงปัจจุบัน 12 ปี มีการเปลี่ยนรัฐบาลมาแล้ว 6 รัฐบาล และมีการรัฐประหารอีก 1 ครั้ง พรรคไทยรักไทย
ภายใต้การนำของ พ.ต.ท. ดร. ทักษิณ ชินวัตร ที่ชนะการเลือกตั้งถึง 2 สมัย ถูกยุบ ทว่าหลายสิ่งหลายอย่างยังคงไม่เปลี่ยนแปลงไป
นโยบายของพรรคไทยรักไทยถูกส่งต่อมายังรัฐบาลอีกหลาย ๆ ชุด ในระยะเวลา 12 ปี กระทั่งในปัจจุบัน รัฐบาลทหารที่ทำการยึดอำนาจจากนางสาวยิ่งลักษณ์
ชินวัตร ก็ยังคงนโยบายบางอย่างของพรรคไทยรักไทยไว้ เพราะเป็นนโยบายที่สร้างประโยชน์ให้กับประชาชนและประเทศชาติอย่างแท้จริง
โครงการหนึ่งตำบล
หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP)
โครงการหนึ่งตำบล
หนึ่งผลิตภัณฑ์ หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ “โอท็อป” เกิดขึ้นในปี
2544 ในสมัยของพรรคไทยรักไทย เป็นนโยบายที่ช่วยให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยได้มีโอกาสลืมตาอ้าปาก
สนับสนุนการสร้างงาน และสนับสนุนภูมิปัญญาท้องถิ่น
อีกทั้งยังทำให้สินค้าไทยก้าวไกลในระดับภูมิภาคและระดับโลก “หนึ่งตำบล
หนึ่งผลิตภัณฑ์” เป็นแนวทางประการหนึ่ง ที่สร้างความเจริญแก่ชุมชนให้สามารถยกระดับฐานะความเป็นอยู่ของคนในชุมชนให้ดีขึ้น
โดยการผลิตหรือจัดการทรัพยากรที่มีอยู่ในท้องถิ่น ให้กลายเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ
มีจุดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของตนเองที่ สอดคล้องกับวัฒนธรรมในแต่ละท้องถิ่น
สามารถจำหน่ายในตลาดทั้งภายในและต่างประเทศ
ในปัจจุบันโครงการโอท็อป
ได้ขยายครอบคลุมไปทุกพื้นที่ของประเทศ และยังคงเป็นนโยบายที่ทำให้ประชาชนมีงาน
มีรายได้ สามารถพึ่งพาตัวเองได้ จนถึงปัจจุบัน
โครงการพัฒนาหมู่บ้านและชุมชน
(SML)
โครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้านและชุมชนหรือที่เรียกว่าโครงการ
SML ถือเป็นหนึ่งในนโยบายส่งเสริมประชาธิปไตย และ ขจัดความยากจน ของรัฐบาลไทยรักไทยในปี
2546 นโยบายนี้มีเป้าประสงค์ที่ต้องการเห็นความเข้มแข็งของหมู่บ้านและชุมชนในการพัฒนาศักยภาพ
และร่วมกันคิดร่วมกันทำงานเป็นหมู่คณะ เพื่อแก้ปัญหาของหมู่บ้านและชุมชนได้อย่างมั่นคงยั่งยืน
ปัจจุบัน
โครงการ SML ถูกเปลี่ยนชื่อมาหลายต่อหลายครั้ง อย่างเช่นในยุคของ พล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์ ก็ได้เปลี่ยนเป็น “โครงการพัฒนาหมู่บ้านและชุมชนตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” หรือในยุครัฐบาลอภิสิทธิ์ก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็น “ชุมชนพอเพียง”
และในปัจจุบันในยุคของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก็ได้ใช้ชื่อว่าโครงการประชารัฐกองทุนหมู่บ้าน
ซึ่งโครงการก็มาจากแนวคิดและลักษณะแบบเดิม
โครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า
โครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า
หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “30 บาท รักษาทุกโรค” เป็นโครงการที่เกิดขึ้นในปี 2544
และนับเป็นนโยบายที่ประสบความสำเร็จและถูกพูดถึงมากที่สุดนโยบายหนึ่งในประวัติศาสตร์
นโยบายหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าได้ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในด้านสุขภาพ
และลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้ที่มีรายได้น้อย
โครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า
ได้ขยายตัวอย่างรวดเร็วจนครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ
และเป็นนโยบายที่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติมาก
เนื่องจากเป็นนโยบายสวัสดิการที่เกิดขึ้นในประเทศที่ไม่ได้มีรายได้ต่อหัวของประชากรสูงนัก
แต่ก็ยังประสบความสำเร็จท่วมท้น นโยบายนี้ถูกส่งต่อไปยังทุกรัฐบาลต่อมา
จนถึงปัจจุบันแม้ว่าจะมีความพยายามยกเลิกนโยบายนี้แต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ
นโยบายนี้ยังคงได้รับการตอบรับและครองใจประชาชนทั้งประเทศอยู่ต่อไป
นี่คือ 3 นโยบายเด่น ๆ ที่พรรคไทยรักไทยได้ริเริ่มไว้ในช่วงก่อนรัฐประหาร 2549
แม้ว่าจะผ่านร้อนหนาวมากี่ครั้ง
นโยบายเหล่านี้ก็ยังคงอยู่ในใจของประชาชน และยังถูกนำมาใช้ในรัฐบาลต่อ ๆ
มาจนถึงปัจจุบัน เพราะนโยบายเหล่านี้ มุ่งที่การเอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง
และเป็นนโยบายเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง