องค์การอนามัยโลกประกาศเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2563 ให้การแพร่โรคระบาดไวรัสโควิด-19 เป็นการแพร่ระบาดระดับใหญ่ของโลก โดยขณะนี้มีผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกมากกว่า 121,000 คน ที่เริ่มระบาดในทวีปเอเชียไปยังตะวันออกกลาง ยุโรป และสหรัฐอเมริกา

นายแพทย์ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก (WHO)  กล่าวว่าในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ตัวเลขผู้ป่วยสะสมนอกประเทศจีนเพิ่มขึ้น 13 เท่าและจำนวนประเทศที่ได้รับผลกระทบเพิ่มขึ้น 3 เท่า  และคาดหมายว่าในอีกไม่กี่วันข้างหน้าเราจะได้เห็นผู้ป่วยและผู้เสียชีวิต และจำนวนประเทศเพิ่มสูงขึ้นไปกว่านี้อีก

องค์การอนามัยโลกรู้สึกกังวลถึงระดับการแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19 โดยเห็นว่าตัวเลขผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตได้เพิ่มขึ้นในทุกประเทศ จึงประกาศให้ไวรัสโควิด-19 เป็นไวรัสที่มีลักษณะของการระบาดอย่างร้ายแรง องค์การอนามัยโลกระบุว่าการยืนยันการระบาดของไวรัสโควิด-19 นี้เริ่มต้นจากเมืองอู่ฮัน ประเทศจีนเมื่อเดือนธันวาคม 2562 และค่อยๆลุกลามไปยังประเทศต่างๆในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ (11มีนาคม 2563) มีการยืนยันผู้ติดเชื้อสะสมที่ 121,564 คน มีผู้เสียชีวิต 4,373 คน โดยประเทศจีนมีผู้ติดเชื้อสะสมและเสียชีวิตมากที่สุด รองลงไปเป็นประเทศอิตาลีซึ่งกำลังรีบกักกันพลเมืองของตนเองอย่างเข้มงวดที่สุดเพื่อระงับยับยั้งการแพร่กระจาย และประเทศอิหร่าน ซึ่งมีอัตราผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วอย่างมีนัยยะสำคัญทางตัวเลข

ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกกล่าวต่อว่าองค์การอนามัยโลกเองไม่สามารถพูดได้ว่าทุกประเทศเองสามารถปรับสาเหตุการระบาดนี้ได้เพราะหลายประเทศเองก็มีปัญหาขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์ บางประเทศก็ไม่มีความรู้ในการแก้ไขเพียงพอ และการระบาดนี้ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อทั้งเศรษฐกิจ การเมืองของโลกใบนี้ซึ่งปกติก็อ่อนไหวบอบบางอยู่แล้ว ข้อจำกัดของการค้าและการเดินทางที่เข้มงวด  แต่อย่างไรก็ตามองค์การอนามัยโลกก็มีความจำเป็นต้องประกาศให้ไวรัสโควิด-19 ระบาดระดับโลกนี้

ที่มา : สำนักข่าว CNBC