“มันเป็นหน้าที่ที่ต้องคิด ต้องทำ ต้องช่วยเหลือคนบ้านเฮา” วิสาร เตชะธีราวัฒน์…ลุยทุกทางสู้โควิด-19
“เรื่องเชื้อไวรัสโควิด-19 เราทำทั้งสามอย่างคือทั้งป้องกัน ช่วยเหลือและทำความเข้าใจอย่างเต็มที่” วิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย บอกเล่าถึงความตั้งใจในการปกป้องชาวจังหวัดเชียงรายให้ปลอดภัยจากไวรัสโควิด-19
“ชาวเขาตื่นตัวกันมากนะ ผู้ใหญ่บ้านเรียกลูกบ้านประชุมเพื่อหามาตรการป้องกันหมู่บ้านไม่ให้ติดโควิด-19 จากคนนอกหมู่บ้านและลูกหลานที่เดินทางกลับมาบ้านระยะนี้”
ส.ส.เชียงราย เขต 3 พรรคเพื่อไทย เล่าว่า สถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในจังหวัดเชียงราย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อำเภอพาน อำเภอเมืองเชียงราย ในตำบลท่าสาย ตำบลสันทราย ตำบลป่าอ้อดอนชัย ตำบลห้วยสัก และตำบลดอยลาน ซึ่งเป็นพื้นที่ของเขามีชาวเขาอาศัยอยู่จำนวนมาก ทั้ง ชาวเขาเผ่าอาข่าหรืออีก้อ ชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงหรือปกาเกอะญอ ชาวเขาเผ่าลาหู่หรือมูเซอ ซึ่งแม้จะต้องดูแลอย่างเข้มงวดทุกด้าน แต่กลับทำให้เขารู้สึกยินดีกับความร่วมมือร่วมใจของทุกฝ่าย
ส.ส.วิสาร เล่าว่า ในหมู่บ้านของชาวเขา
ส่วนใหญ่ผู้ชายก็จะไปทำงานนอกพื้นที่กันหมด โดยเฉพาะเผ่าอาข่า
ที่ไปทำงานในประเทศกลุ่มเสี่ยงเช่นเกาหลีใต้และไต้หวัน
จึงทำให้ในหมู่บ้านมีแต่ผู้หญิงและเด็กอยู่เฝ้าบ้าน
เมื่อประเทศที่ชาวชนเผ่าไปทำงานเกิดโรคระบาด
และทำให้ส่วนหนึ่งตัดสินใจเดินทางกลับสู่ถิ่นฐานบ้านเกิด
ในหมู่บ้านของแต่ละคน แต่ละชนเผ่า ก็จะมีการมาตรการกักกันตัวเป็นเวลา 14
วันของเขาเอง
เพื่อให้แน่ใจว่าคนที่เดินทางกลับมาเหล่านั้นปลอดเชื้อก่อนจะให้กลับเข้าหมู่บ้าน
“ในพื้นที่ เราก็เริ่มต้นคุยกับ ส.จ. (ว่าที่ร้อยตรีจิรศักดิ์ จูเปาะ
และ ส.จ.อัญรัตน์ จอมวุฒิ) ก่อนเลย แล้วให้ ส.จ.
ไปคุยกับท้องถิ่นว่าเราต้องป้องกันก่อนเป็นลำดับแรก อย่างชาวบ้านที่วาวี,
ท่าก๊อ, และแม่สรวย
เขาก็ริเริ่มตั้งจุดคัดกรองหน้าหมู่บ้านเลยไม่ให้คนนอกเข้าเด็ดขาด
พอลูกหลานที่ไปทำงานข้างนอกกลับมา เขาก็ส่งไปสร้างกระท่อมให้อยู่ต่างหาก
ที่ไกลจากหมู่บ้านไปปลายดอยโน้น มีน้ำท่าให้อาบน้ำ มีที่นอนไว้
มีอาหารไปส่งไว้ให้ตามจุดในหมู่บ้าน
เขาก็จะมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องมาร่วมด้วย
มีการตรวจวัดอุณหภูมิว่ามีไข้หรือไม่
มีการแนะนำให้ใช้เจลแอลกอฮอล์มาสนับสนุนวางหน้าหมู่บ้าน พอครบ 14
วันก็ให้ตรวจวัดไข้ ให้แน่ใจว่าไม่มีไข้ ปลอดภัย
แล้วเขาถึงให้กลับเข้าบ้านได้” ส.ส.วิสาร เล่าถึงมาตรการกำแพงเหล็ก
ที่ชาวบ้านร่วมกันคิดร่วมกันทำเพื่อให้ทุกคนปลอดภัยที่สุด
ในฐานะ
ส.ส.เชียงราย “วิสาร เตชะธีราวัฒน์” เข้าใจเป็นอย่างดีว่า กลุ่มเสี่ยง
ไม่ใช่เพียงแค่คนทำงานจากประเทศกลุ่มเสี่ยงเท่านั้นที่น่าห่วง
แต่ยังมีผู้สูงอายุและเด็กอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก
จึงพยายามทำความเข้าใจกับผู้สูงอายุและเด็กๆ ถึงโรคระบาดเหล่านี้ในทุกด้าน
ให้ความสำคัญในสถานการณ์วิกฤติ โดยมองว่า สิ่งสำคัญ สำหรับชาวบ้าน แพทย์
พยาบาลและอาสาสมัครชุมชนในเชียงราย
โดยเฉพาะหน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอล์ยังมีไม่เพียงพอ
แม้จะมีของจากฝั่งลาวส่งข้ามมาขายบ้าง แต่ก็มีราคาแพงมาก
“เรื่องหน้ากากอนามัย ผมอึดอัดมาก สมัยก่อนบ้านผมเปิดร้านขายยา หน้ากากอนามัยชิ้นหนึ่งไม่เกิน 2 บาท แต่ตอนนี้ขายกันอันละ 18-20 บาท ผมก็ไม่ไหว เลยให้แม่บ้านเย็บหน้ากากผ้าเอาไปให้คุณหมอตรวจสอบว่าใช้ได้หรือไม่ พอคุณหมอบอกว่าใช้ได้ก็ช่วยกันทำเอาไปแจกตามหมู่บ้าน แล้วก็สอนเขาทำเพื่อแจกจ่ายกันเอง พอกลุ่มแม่บ้านรวมกลุ่มเย็บหน้ากากกันได้หลายร้อยผืน ก็เอาไปแจกช่วยพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนตามหมู่บ้านต่างๆ ตามตลาดสดเพื่อให้เขาได้ใช้สำหรับป้องกันตัวเอง ครอบครัวและชุมชนของเขา”
แม้แต่ตามตลาดหรือทางเข้าชุมชนแต่ละแห่ง ส.ส.วิสาร ยังแนะนำให้ผู้นำท้องถิ่นหรือชุมชน ช่วยกันจัดหาจุดสำหรับบริการล้างมือพร้อมสบู่ไว้ให้บริการประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ชุมนุมชน อย่างเช่น ตลาด เพราะมองว่าเป็นจุดที่ผู้คนต้องมาซื้อหาอาหารจำเป็นและเป็นจุดที่มีความเสี่ยงมากเช่นกัน
“ผมไปตลาดตอนเช้าๆ ไปบอกแม่ค้าว่าคนมาตลาดไม่รู้ใครจากไหนบ้าง ก็แนะนำให้เขาทำอ่างล้างมือ เตรียมน้ำหาสบู่ไว้ บอกกับแม่ค้าทุกคนให้ล้างมือบ่อยๆ ใครจะเข้าตลาดต้องล้างมือก่อนนะ”
วันนี้ แม้สถานการณ์โควิด-19 ในจังหวัดเชียงรายยังน่าเป็นห่วงจนผู้ว่าราชการจังหวัดได้ประกาศปิดห้ามคนเข้าจังหวัดโดยไม่จำเป็นแล้ว แต่ ส.ส.วิสาร ก็ยืนยันว่า ยังจะเดินหน้าทำงานต่อไปจนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในจังหวัดเชียงรายจะบรรเทาเบาบางลง
“สำหรับผมแล้ว มันเป็นหน้าที่ที่ผมจะต้องคิด ต้องทำและต้องช่วยเหลือคนบ้านเฮาต่อไปโดยไม่หยุดครับ” ส.ส.วิสาร เตชะธีราวัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย