“หนองคาย” ฝ่าโควิด.. “กฤษฎา ตันเทอดทิตย์” ต้องทลายลูกโซ่ปัญหา-พาทุกคนเดินหน้าไปด้วยกัน
“ในพื้นที่ชาวบ้านค่อนข้างจะเข้าใจดีครับว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นอย่างไร และทุกคนก็ร่วมมือร่วมใจกัน” กฤษฎา ตันเทอดทิตย์ ส.ส.หนองคาย เขตเลือกตั้งที่ 1 พรรคเพื่อไทย ชี้ให้เห็นถึงภาพรวมในพื้นที่หลังจากมีการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
จังหวัดหนองคาย เป็นหนึ่งในอีกหลายๆ จังหวัดที่ตรวจพบผู้ติดเชื้อ แต่ในสายตา “ส.ส.กฤษฎา ตันเทอดทิตย์” ไม่ได้ทำให้คนหนองคายตื่นตระหนกกลัว กลับกันเมื่อทุกคนรู้ข่าวกลับพยายามช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ทั้งในส่วนของประชาชน ไปจนถึงหน่วยราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. แพทย์ พยาบาล และภาคเอกชนในพื้นที่ ที่ระดมกำลังช่วยกันอย่างเต็มที่
“ที่หนองคายก็มีรายงานเรื่องพบผู้ติดเชื้อ แต่เป็นผู้ที่เดินทางมาจากที่อื่น ซึ่งทุกคนก็พยายามช่วยกันทำให้ทุกคนตื่นตัวต่อปัญหาและช่วยกันป้องกันปัญหา กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และ อสม. ตั้งด่านคัดกรองกันทุกหมู่บ้าน ผมไปเยี่ยมมาหลายจุด อะไรที่ขาดอยู่ ช่วยได้ก็ช่วยกัน หน่วยราชการต่างๆ ก็รณรงค์ให้ประชาชนอยู่บ้าน เพื่อลดโอกาสการแพร่เชื้อ และให้ความรู้กันต่อเนื่อง ในส่วนของแพทย์และพยาบาล ที่จะต้องเป็นกำลังหลักตรวจรักษา ผมได้ไปเยี่ยมให้กำลังใจ ก็เห็นว่าพี่น้องชาวหนองคายมาช่วยกันเยอะ เอาอาหาร ขนม ไปจนถึงหน้ากากอนามัย มามอบให้กับทางโรงพยาบาล อาจจะเพราะว่าชาวบ้าน เข้าใจเป็นอย่างดีว่าหมอและพยาบาลจะต้องทำงานอย่างหนัก ในสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสครั้งนี้” ส.ส.หนองคาย เขต 1 พรรคเพื่อไทย เล่าถึงบรรยากาศในพื้นที่จังหวัดหนองคาย แม้ในสถานการณ์วิกฤติ ก็ยังพบเห็นน้ำใจของทุกฝ่าย แต่กระนั้นก็ยังมีอีกหลายเรื่องที่น่าเป็นห่วง โดยเฉพาะเครื่องมือเครื่องใช้ของแพทย์และพยาบาล ที่จะต้องรับบทหนักในสถานการณ์นี้ ที่ในพื้นที่ยังขาดแคลนอีกมาก
“ได้คุยกับคุณหมอ ก็รู้ว่ายังมีอีกหลายอย่างที่ยังขาด และต้องเตรียมการกัน วันนี้ผู้ป่วยไม่เยอะ ก็พอจะรับสถานการณ์ไหว แต่เป็นห่วงว่าในอนาคตหากผู้ติดเชื้อมีมากกว่านี้จะรับกันไหวหรือไม่ เครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์หลายอย่างอาจจะไม่เพียงพอ อย่างห้องที่ใช้สำหรับรักษาผู้ติดเชื้อ ห้องความดันลบ (Negative Pressure) มีแค่ 3 ห้อง อาจจะไม่พอ ตรงนี้เราก็อยากให้กระทรวงสาธารณสุขเข้ามาดูแล ซึ่งคุณหมอก็แสดงความเป็นห่วง ผมก็รับเรื่องนี้ไปพูดคุยกับภาคเอกชนในพื้นที่ เพื่อเตรียมแผนเอาไว้รองรับ ถ้าภาครัฐดำเนินการไม่ได้จริงๆ เราก็อาจจะต้องหาหนทางระดมทุนกันเพื่อสนับสนุนโรงพยาบาล ให้สามารถปรับปรุงห้องปกติให้เป็นห้องสำหรับรักษาผู้ติดเชื้อชั่วคราว” ส.ส.กฤษฎา เล่าถึงแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่เขาได้วางแผนเอาไว้ พร้อมกับบอกว่า เบื้องต้นได้ประสานกับภาคเอกชนบ้างแล้ว และน่าดีใจที่ภาคเอกชนในพื้นที่ก็พร้อมสนับสนุน
นอกจากทางด้านการแพทย์ที่น่าเป็นห่วงแล้ว ส.ส.กฤษฎา ยังบอกว่า อีกส่วนที่ยังคงเป็นที่กังวลของหลายฝ่ายในพื้นที่ คือกลุ่มผู้ประกอบการ ทั้งร้านอาหาร โรงแรม หรือผู้ผลิตสินค้าหลายๆ อย่างที่ได้รับผลกระทบเป็นลูกโซ่
“เมื่อท่องเที่ยวหยุด โรงแรมก็หยุด ร้านอาหารก็ต้องปิด ผมมีโอกาสคุยกับผู้ประกอบการหลายคน ที่เป็นผู้ผลิตต้นน้ำ ปัจจุบันยอดขายตกลงมา 50% เนื่องจากโรงงานปิด พนักงานที่เป็นชาวต่างชาติเดินทางกลับประเทศ ผลกระทบเป็นลูกโซ่ หรือธุรกิจอุปโภคบริโภค ที่ได้รับผลกระทบไปด้วย เราก็คิดว่าถ้ามีอะไรที่พอจะช่วยให้ผู้ประกอบการเขาไปได้ เราก็ควรหาทางช่วยเหลือและสนับสนุน หรืออย่างร้านอาหารที่เป็น Street food ในช่วงนี้ก็ต้องสนับสนุนให้เค้าสามารถทำงานให้ได้ โดยเฉพาะเรื่องความรู้ในการใช้แอปพลิเคชันเข้ามาช่วยในการค้าขาย” ส.ส.กฤษฎา บอกถึงปัญหาที่ซ่อนอยู่ภายใต้สถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
“อย่างวันที่ผมไปเยี่ยมให้กำลังใจแพทย์และพยาบาลในพื้นที่ ผมพอจะทราบว่า แพทย์และพยาบาล จะรับประทานอาหารไม่พร้อมกัน ซึ่งอาจจะเป็นเพราะภาระหน้าที่ ผมก็ใช้วิธีนำอาหารสำเร็จรูป ที่สามารถเก็บรักษาในอุณหภูมิปกติได้นานนับปี ซึ่งผลิตโดยภาคเอกชนในพื้นที่ ไปมอบให้กับทางโรงพยาบาลด้วย ซึ่งเป็นการให้กำลังใจหมอและพยาบาล ขณะเดียวกันก็ได้ช่วยเหลือภาคเอกชนไปด้วย”
ส.ส.กฤษฎา ตันเทอดทิตย์ กล่าวด้วยว่า สำหรับผมการช่วยเหลือไม่ใช่แค่เพียงแค่วันนี้ เพราะเราเห็นอยู่แล้วว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ใช่แค่เรื่องการจะมีผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วย เพิ่มขึ้นหรือลดลงเพียงอย่างเดียว แต่มีปัญหาอื่นๆ ที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังอีกมาก ประชาชนทุกคนคือผู้ได้รับผลกระทบที่เป็นลูกโซ่ ซึ่งตรงนี้เราต้องหาทางช่วย อย่างน้อยก็ต้องช่วยให้เขาสามารถเดินฝ่าวิกฤตินี้ไปด้วยกันให้ได้