“คลองสามวาต้องปลอดภัย” จิรายุ ห่วงทรัพย์ กางโรดแมปสู้โควิด-19

“ผมแบ่งการทำงานเป็นระยะๆ แต่ละระยะๆ ออกแบบให้เกิดการป้องกันในแต่ละระดับ แต่ละส่วนที่แตกต่างกัน ค่อยๆ ไล่ระยะไป เพื่อให้ชาวบ้านปลอดภัยมากที่สุด” จิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส. กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย เล่าถึงแนวทางที่ได้วางแผนไว้ สำหรับดูแลความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่คลองสามวา

ดูเหมือน “ส.ส.จิรายุ” จะอ่านเกม “สถานการณ์วิกฤติโควิด-19” โรคอุบัติใหม่ชนิดนี้ไว้อย่างรัดกุม เนื่องด้วยน้อยคนนักที่จะรู้จักและเข้าใจการระบาด ไปจนถึงวิธีการป้องกัน เขาจึงเลือก “แผนแรก” ที่เน้นการสร้างความรู้ความเข้าใจให้ชาวบ้านในพื้นที่ โดยเฉพาะวิธีการป้องกันตัวเอง ด้วยการโหมประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เกี่ยวกับเชื้อไวรัสชนิดนี้ในทุกช่องทาง 

“อันดับแรกที่ทำเลยคือการรณรงค์ ให้ความรู้ประชาชนให้รู้จักเชื้อไวรัสชนิดนี้ ทั้งใน โซเชียลมีเดีย แผ่นพับ ใบปลิว และการขึ้นป้ายไวนิล กินร้อน.. ช้อนกรู.. ต่างคนต่างอยู่ลองห่างกันดู 2 เมตร เพื่อให้คนในพื้นที่เข้าใจพื้นฐานของโรคและการระบาดก่อนว่า คุณต้องดูแลตัวเองแบบนี้นะ Social Distancing คืออะไร ต้องรักษาระยะห่างระหว่างกันอย่างไรเพื่อให้ตัวเองปลอดภัยก่อนแรก” ส.ส.กทม. เขตคลองสามวา เล่า

เมื่อการดำเนินการในระยะแรกสามารถเข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมายตามที่ตั้งใจไว้ เขาก็เดินหน้าแผนในระยะที่สองต่อเนื่องทันที

“ผมมองว่าพื้นที่คลองสามวา พี่น้องประชาชนใช้บริการรถสาธารณะกันเยอะมาก เรียกได้ว่าเป็นหัวใจสำคัญอีกอันหนึ่งของพื้นที่เลยก็ว่าได้ จึงต้องดูแลในส่วนนี้ให้มากด้วยเช่นกัน ทั้งรถสองแถว รถเมล์โดยสาร ป้ายรถเมล์ รถตู้โดยสาร วินมอเตอร์ไซด์ ให้สะอาดปลอดภัย ผมและทีมงานก็จัดการทำความสะอาดฆ่าเชื้อในส่วนที่เป็นบริการสาธารณะทั้งหมด เพื่อจะลดเงื่อนไขความเสี่ยงการติดเชื้อจากการใช้บริการรถสาธารณะ ซึ่งเมื่อประชาชนยังมีความจำเป็นที่จะต้องเดินทาง ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องสัมผัสกับสิ่งต่างๆ ถ้าบริการสาธารณะเหล่านี้สะอาด ปลอดภัย ความเสี่ยงที่ประชาชนจะได้รับเชื้อก็จะลดน้อยลง แล้วเมื่อเขากลับเข้าบ้านไปอยู่กับครอบครัว ก็จะไม่เสี่ยงที่จะนำเชื้อไปแพร่ให้กับคนในครอบครัวด้วย” ส.ส.จิรายุ ห่วงทรัพย์ เล่าถึงแนวคิดของเขาในการดำเนินการเพื่อทำให้ชาวคลองสามวาปลอดภัยจากเชื้อไวรัส

ส.ส.คลองสามวา พรรคเพื่อไทย บอกอีกว่า ก่อนที่เขาและทีมงานจะเริ่มดำเนินการทำความสะอาดฆ่าเชื้อ ตามแผนการระยะที่สอง ช่วงนั้นการสื่อสารของภาครัฐ ยังมีความสับสนอย่างมากว่าจะเป็นผลดีหรือไม่ ซึ่งก็ได้มีการทำหนังสือสอบถามความชัดเจนไปยัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แต่กลับไร้สัญญาณตอบรับกลับ   

“พูดกันตรงๆ พี่น้องที่ให้บริการรถสาธารณะส่วนใหญ่ก็คนหาเช้ากินค่ำ ผมก็จะมอบหน้ากากให้เขา แล้วก็บอกเขา ให้เอาไว้ป้องกันตัวเองนะพี่ ส่วนที่เหลือถ้าพี่เห็นผู้โดยสารที่ขึ้นรถมาแล้วเขาไม่มีหน้ากากใส่ ก็เอาให้เขาไปด้วย จะได้ช่วยกันให้ทุกคนปลอดภัย”

หลังจากดำเนินการฆ่าเชื้อทำความสะอาดให้กับกลุ่มบริการสาธารณะโดยรอบพื้นที่แล้ว การดำเนินการระยะที่สอง ของ ส.ส.จิรายุ ห่วงทรัพย์และทีมงาน ก็ได้ขยายไปทำความสะอาดฆ่าเชื้อให้กับหมู่บ้านและชุมชนต่างๆ โดยตั้งเป้าหมายที่จะดำเนินการให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งจะไล่เรียงไปตามคิวที่ได้รับการประสานงานเข้ามา  

ส.ส.จิรายุ ห่วงทรัพย์ เล่าต่อไปว่า ระหว่างการดำเนินการระยะที่สอง ใกล้เสร็จสิ้น ในอีกทางหนึ่งเขาก็ได้เริ่มดำเนินการระยะที่สามไปด้วย โดยประสานกับกลุ่มแม่บ้านในพื้นที่ให้จัดทำหน้ากาก เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับพี่น้องประชาชน เพื่อให้ทุกคนได้มีหน้ากากเอาไว้ใช้สำหรับปกป้องตัวเอง  

“ผมจะเน้น หน้ากากและเจลแอลกอฮอล์ล้างมือให้พี่น้องวินมอเตอร์ไซค์นะ เพราะในพื้นที่มีตรอกซอกซอยอยู่เยอะ แล้วก็เป็นพาหนะที่มีผู้ใช้บริการเยอะมาก ถ้าเขาสามารถปกป้องตัวเองให้ปลอดภัยได้ ก็จะเท่ากับว่าประชาชนผู้มาใช้บริการก็จะปลอดภัยจากการติดเชื้อด้วย แต่อย่าลืมนะครับว่าพี่น้องผู้ให้บริการรถสาธารณะเหล่านี้ ส่วนใหญ่เขาก็คนหาเช้ากินค่ำ เราก็ต้องคิดด้วยว่าในสถานการณ์ที่หลายๆ อย่างขาดแคลนและมีราคาแพง เขาจะเอามาจากไหน แค่นี้ก็ลำบากกันอยู่แล้ว เราก็เลยคิดว่าอะไรที่น่าจะช่วยซัพพอร์ทเขาได้ เพื่อช่วยให้เขาได้ร่วมรับผิดชอบต่อสังคม ก็ควรสนับสนุน ซึ่งท้ายที่สุดผู้ที่จะได้รับความปลอดภัยก็คือประชาชนที่มาใช้บริการ” จิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส. กทม. พรรคเพื่อไทย สรุปแนวคิดแผนรับมือโควิด-19 ตลอดทั้งสามระยะ ตามเป้าหมาย “คลองสามวาต้องปลอดภัย” ที่ตั้งเอาไว้อย่างน่าสนใจ