“จะทำทุกอย่างไม่ให้พี่น้องของผมอดอยาก” เก่ง การุณ โหสกุล เดินเครื่อง “ดอนเมืองไม่ทิ้งกัน” โครงการอาหาร “อิ่ม” หัวใจ

“เดินเว้นระยะห่างไว้นะครับคุณแม่ หมูกระเทียมหรือไข่เจียวราดข้าวดีครับคุณแม่ จะเอาไปฝากคุณพ่อด้วยไหม รับเพิ่มได้เลยนะครับ” เสียงของ ส.ส.การุณ โหสกุล พรรคเพื่อไทย เขตดอนเมือง ร้องบอกพี่น้องประชาชน ที่มารอรับอาหารที่ทำแจกหน้าสำนักงานพรรคเพื่อไทย เขตดอนเมือง ถนนช่างอากาศอุทิศ กรุงเทพมหานคร เป็นเสียงที่คุ้นเคยเป็นอย่างดีของประชาชนในแถบนั้น 

เช่นเดียวกับภาพของ พ่อครัว-แม่ครัวอาสา ประมาณ 20 คนมาช่วยกันปรุงอาหารตั้งแต่ตี 4 ของทุกวันในช่วงนี้ เพื่อให้ได้อาหารพร้อมแจกจ่ายในแต่ละวันตั้งแต่เวลา 10.30 น. ถึง 14.00 น.

 
ส.ส.การุณ โหสกุล หรือ ส.ส.เก่ง และทีมพ่อครัว-แม่ครัว จิตอาสา ทำเช่นนี้มานานแรมเดือน หลังจากที่กรุงเทพมหานครประกาศปิดห้างสรรพสินค้า ตลาดนัดและสถานประกอบการหลายแห่ง ซึ่งส่งผลให้ชาวบ้านหาเช้ากินค่ำได้รับผลกระทบโดยตรง

“คนดอนเมือง ส่วนมากก็ทำงานรับจ้างในพื้นที่กรุงเทพฯ บางส่วนก็เป็นพ่อค้าแม่ค้า คนงานก่อสร้างและทำงานชั่วคราวในสถานประกอบการต่างๆ ต้องหยุดงานขาดรายได้ และการขาดรายได้แบบนี้ เขาก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้กลับมาทำงานและมีรายได้อีก ดังนั้นเราก็ต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อแบ่งเบาภาระความเดือดร้อนของชาวบ้าน ดีที่สุดก็คืออาหาร เขาไม่มีงาน ไม่มีรายได้ แต่เราจะปล่อยให้เขาอดอยากไม่ได้ เมื่อไรที่ปล่อยให้คนต้องท้องหิว ก็จะเสี่ยงที่เขาจะเลือกทำอะไรที่ไม่เหมาะสม เช่น ลักเล็กขโมยน้อย เราจึงจำเป็นต้องเปิดครัว” ส.ส.เก่ง การุณ เล่าถึงจุดเริ่มต้น “โครงการดอนเมืองไม่ทิ้งกัน คนไทยรักกัน” ทำอาหารแจกจ่ายช่วยเหลือพี่น้องในวันที่เขาต้องยากลำบาก

ส.ส.การุณ โหสกุล กำหนด 2 จุดสำหรับแจกจ่ายอาหารให้กับพี่น้องประชาชน

จุดแรกที่สำนักงานพรรคเพื่อไทย ถนนช่างอากาศอุทิศ และ จุดที่สอง ถนนสรงประภา ปากซอยสรงประภา 3

“เราทำอาหารกันทุกวัน สด ใหม่ เราโชคดี พ่อครัวแม่ครัวจิตอาสาจากคนในชุมชน 20 คน มาช่วยหุงหาข้าวปลาอาหาร โดยไม่มีเบี้ยตอบแทนอะไรเลย เราได้รับความเมตตาจากหลวงพ่อที่วัดให้ยืมหม้อหุงข้าวไฟฟ้าขนาดใหญ่ หม้อกระทะเตาจากวัด ทุกวันเราจะทำอาหารประมาณ 1 พันกล่อง และมีเสริมจากผู้สนับสนุนทั่วๆ ไปอีกวันละสองสามร้อยกล่อง เราใช้ข้าวสารประมาณ 70-80 กิโลกรัมทุกวัน ข้าวเราก็ได้รับบริจาคมา มีทั้งข้าวเก่าข้าวใหม่ มันก็จะหุงขึ้นหม้อไม่เท่ากัน วัตถุดิบทุกอย่างต้องเตรียมไว้ล่วงหน้าและรักษาความสะอาด เราต้องคิดไว้เสมอว่าเราทำอาหารให้พี่น้องเรา ซึ่งต้องดีเหมือนที่เราทำกินเอง ไข่พะโล้พันฟองต้องใช้หมู 30-40 กิโลกรัม เต้าหู้พวงหลายสิบกิโลฯ และใช้เป็นสิบหม้อกว่าจะทำได้พอ 1 พันกล่อง” ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่ดูแลพื้นที่เขตดอนเมือง พร้อมเปิดเผยให้เห็นวัตถุทุกอย่างในห้องครัวชั่วคราว ที่เขาและทีมงานจัดตั้งขึ้น รวมไปถึงเปิดตู้เย็นขนาดใหญ่ที่เอาไว้เก็บอาหารสดไว้อย่างดี

“วานนี้มีศิษย์ของหลวงพ่ออลงกต วัดพระบาทน้ำพุ มอบปูอัดสดๆ มาให้ 200 กิโลกรัม ผมก็เอามาทำกะเพราปูอัด ปูอัดผัดหน่อไม้ดองอร่อยมากครับ ผมก็ทานเองด้วย” ส.ส.เก่ง การุณ เล่าพร้อมส่งเสียงหัวเราะเล็กๆ ออกมาอย่างอารมณ์ดี

10.30 น. ของทุกวัน เหมือนเป็นเวลาที่รู้กันของทั้งผู้ให้และผู้รับ พี่น้องจะเริ่มทยอยเดินมาเพื่อรับอาหาร โดยจะมีทีมงานจะช่วยจัดระเบียบการเข้าคิวแบบเว้นระยะห่างกันอย่างน้อย 2 เมตร ซึ่งทุกคนจะต้องใส่หน้ากากอนามัยและต้องผ่านจุดคัดกรอง วัดไข้ 2 จุด พร้อมทำความสะอาดด้วยแอลกอฮอล์ล้างมือ

“ค่อยๆ เดินเข้ามาเลยนะครับ คุณแม่ครับ วันนี้มีหน่อไม้ผัดปูอัด กับข้าวไข่เจียวจะเอาอะไรดีครับ คุณแม่ อ๋อ..เผื่อคุณพ่อด้วยนะครับสองกล่องเลยครับ ฝากน้ำดื่มไปให้คุณพ่อที่บ้านด้วยนะครับ” ส.ส.การุณ จะคอยส่งเสียงบอกกับพี่น้องประชาชนมารับอาหารและอยู่จนกระทั่งกิจกรรมแจกจ่ายอาหารเสร็จสิ้นทุกวัน หลังจากนั้น ส.ส.การุณและทีมงาน ก็จะจัดเตรียมวัตถุดิบสำหรับประกอบอาหารสำหรับวันถัดไป

“เราทำได้วันละมื้อเดียว ก็เต็มที่แล้วครับ เราขอเขาว่าเราขอทานอิ่มมื้อนี้ก่อน ส่วนใครขอเผื่อคุณพ่อคุณแม่ก็สามารถเอาไปได้เลยเราไม่หวง อย่างเด็กปั๊มน้ำมัน ที่ทำงานรายวัน เขาจะมาขอวันละ 10 กล่อง เขาก็จะเอาไปแบ่งปันกันกับเพื่อนๆ ของเขา เราไม่หวง แต่เราอยากให้เขาทานอิ่มในมื้อนี้ แล้วแบ่งปันกับคนอื่นๆ ที่ลำบาก ไม่ต้องเอาไปเผื่อ ไปเก็บไว้เยอะๆ เดี๋ยวอาหารจะไม่ดี” ส.ส.การุณ เล่าไปพร้อมกับมือที่หยิบขวดน้ำใส่ยื่นใส่ถุงผ้าของประชาชนที่มารับอาหาร   

“ผมก็ยังไม่รู้ครับว่า โครงการดอนเมืองไม่ทิ้งกันคนไทยรักกัน ที่ทำอยู่นี้จะทำไปถึงเมื่อไร ถ้าโควิด-19 จบเร็ว เราก็จบได้เร็ว แต่ถ้ายังระบาดต่อเนื่อง เราก็ต้องหาทางทำกันต่อไป ผมเป็น ส.ส.ได้เพราะพี่น้องประชาชนดูแลผม วันนี้พี่น้องลำบาก ผมจะต้องทำทุกอย่างไม่ให้พี่น้องผมอดอยาก ผมจะพยายามทำให้เต็มที่ แต่อยากขอให้พี่น้องทุกคนดูแลสุขภาพตัวเองด้วย ระมัดระวังตัวเอง เพื่อให้เราผ่านวิกฤตินี้ไปด้วยกันนะครับ” ส.ส.เก่ง การุณ โหสกุล ย้ำความห่วงใยถึงพี่น้องประชาชนอีกครั้ง