“พงศ์เทพ เทพกาญจนา” เชื่อ การท่องเที่ยวซบเซาถึงปลายปี 64 แนะรัฐบาลเร่งกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ

29 สิงหาคม 2563 นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตรองนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคด้านการพัฒนาพรรค พรรคเพื่อไทย กล่าวในงาน “ฝ่ายค้านรับฟัง 4 กลุ่มเปราะบางจากวิกฤติโควิด-19” เวทีที่ 2 : ความเดือดร้อนต่อภาคการท่องเที่ยวและบริการจากวิกฤติโควิด-19 ที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งจัดโดยกลุ่มงานผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ว่า ปัญหาที่กระทบต่อการท่องเที่ยวภาคเหนือโดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่นั้น ไม่ได้มีเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติเท่านั้น คนไทยมาเที่ยวและมาใช้เงินจำนวนมาก สถานการณ์ขณะนี้นักท่องเที่ยวต่างชาติไม่เข้ามาในประเทศ ถ้าคนไทยไม่มีเงินก็ไม่สามารถมาท่องเที่ยวได้ ปฏิเสธไม่ได้ว่าตั้งแต่รัฐบาลนี้เข้ามาบริหารประเทศตั้งแต่ยึดอำนาจ เศรษฐกิจในประเทศไทยเติบโตช้า ทำให้เงินในกระเป๋าคนไทยน้อยกว่า และเงินไปกระจุกอยู่กลุ่มคนจำนวนน้อย ที่มีฐานะสูง 

ถ้าจะให้เศรษฐกิจผงกหัวได้ ต้องมีเงินอัดฉีดเงินในระบบ คือต้องเพิ่มรายได้ให้กับภาคประชาชน อย่างแรกที่ควรทำคือการเจรจาเรื่องเอฟทีเอกับสหภาพยุโรป การเจรจาการค้าลดภาษีกับสหภาพยุโรป ซึ่งในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีการเจรจากับสหภาพยุโรปเพื่อให้สินค้าไทยได้รับภาษีนำเข้าต่ำ จะทำให้ขายของได้มากขึ้น รายได้เข้าสู่ประเทศไทย เมื่อเกิดการยึดอำนาจ ทำให้การเจรจาหยุดชะงัก ส่วนค่าเงินบาทที่ผ่านมาก็แข็งค่า รวมทั้งยังมีปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นและการดำเนินการที่ไม่เป็นประโยชน์ต่างๆ อาทิ การซื้ออาวุธ ที่ไม่เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจ

“เชื่อว่าปลายปี 2564 การท่องเที่ยวจะยังไม่เหมือนเดิม และนักท่องเที่ยวจะลดลงไปเยอะ ดังนั้น ต้องกระตุ้นให้คนไทยหันมาท่องเที่ยวในประเทศให้มากขึ้น ดังนั้น จังหวัดเชียงใหม่มีโอกาสอยู่ได้ ถ้าทำให้คนไทยหันมาท่องเที่ยว ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติถ้ามาเที่ยวในประเทศไทยต้องมากักตัว 14 วัน และต้องพักในเมืองไทยเป็นเวลา 1 เดือน เชื่อว่าปีนี้ยังพึ่งนักท่องเที่ยวได้ยากมาก”