พรรคเพื่อไทย มีมติยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 เปิดทางตั้ง ส.ส.ร. เรียกร้องทุกฝ่ายร่วมมือแก้ไขวิกฤติประเทศ

3 สิงหาคม 2563 นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรค น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรค นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) แกนนำพรรค และ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ร่วมกันแถลงมติพรรคเพื่อไทยให้ดำเนินการยื่นญัตติต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256

โดย นายสมพงษ์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมีมติเอกฉันท์ในการดำเนินการยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 โดยจะขมวดปมให้มีการตั้ง ส.ส.ร. ขึ้น และจะเสนอต่อสภาให้เร็วที่สุด ซึ่งถือเป็นแนวทางที่ถูกที่ควรในการดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญในลักษณะนี้ หากดำเนินการในลักษณะอื่นเกรงว่าจะล่าช้าและอาจจะสิ้นเปลืองงบประมาณแผ่นดิน อย่างไรก็ตามพรรคเพื่อไทยจะเปิดโอกาสให้พรรคร่วมฝ่ายค้าน พรรคร่วมรัฐบาล หรือแม้แต่ ส.ว. ได้เข้ามามีส่วนร่วม ซึ่งจากการที่ได้รับฟังในเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นทุกฝ่ายเห็นไปในแนวทางเดียวกัน เพียงแต่ว่าในรูปแบบการนำเสนออาจจะแตกต่างกันออกไป

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ภารกิจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องอาศัยการมีส่วนร่วมจากทุกฝ่าย ทั้งนี้เห็นว่าระยะเวลาในการแก้รัฐธรรมนูญไม่ควรเกิน 1 ปี ทั้งกระบวนการสรรหา ส.ส.ร. และการยกร่างใหม่ เนื่องจากเรามีกระบวนการศึกษาและมีข้อมูลอยู่แล้ว รวมทั้งมีวิธีที่จะดำเนินการให้รวดเร็วที่สุด ซึ่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเป็นการทำให้ประเทศเดินหน้าต่อ ทั้งแก้ไขวิกฤติเศรษฐกิจและแก้ไขวิกฤติการเมืองไปในตัวด้วย จึงขอเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรีให้แสดงความจริงใจในการแก้วิกฤติประเทศ โดยการให้ ส.ส. ฝ่ายรัฐบาลสนับสนุนญัตติของพรรคเพื่อไทยหรือพรรคฝ่ายค้าน รวมถึงเรียกร้อง ส.ว. ให้ร่วมกันทำเพื่อบ้านเมือง

น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมฝ่ายค้านให้ความสำคัญในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยได้ยื่นญัตติขอให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญและทำหน้าที่กันมาระยะหนึ่งแล้ว คณะกรรมาธิการฯ มีโอกาสได้ฟังความเห็นจากทุกภาคส่วน แม้จะมีความแตกต่างกันในรายละเอียด แต่ทั้งหมดเห็นสอดคล้องกันในหลักการว่ารัฐธรรมนูญมีข้อบกพร่องอยู่หลายประการ โดยเฉพาะในบางมาตรามีอุปสรรคในการบริหารประเทศ หลายมาตราเป็นอุปสรรคต่อการดำรงชีวิตและการทำมาหากินของพี่น้องประชาชน เพราะฉะนั้นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่พรรคเพื่อไทยมีมติเห็นชอบแล้วจะเสนอสภาต่อไปนั้นเราเชื่อว่าจะเป็นทางออกของประเทศ

นายสุทิน กล่าวว่า รัฐธรรมนูญที่จะเป็นทางออกของประเทศ จะต้องเป็นรัฐธรรมนูญที่ประชาชนยอมรับ ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการร่างมากที่สุด จึงควรตั้ง ส.ส.ร. ขึ้นมาดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้เมื่อ ส.ส. ลงชื่อครบก็จะดำเนินการยื่นญัตติต่อสภาไม่เกินวันที่ 6 สิงหาคม