วิสิษฐ์ เตชะธีราวัฒน์ : นายกรัฐมนตรี ไม่ควรนำงบประมาณจำนวนนี้ไปใช้ในวัตถุประสงค์อื่น ที่ไม่เกี่ยวกับโควิด-19
17 มิถุนายน 2563 นายวิสิษฐ์ เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.โอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. …. กล่าวในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.โอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. …. ว่า การโอนงบประมาณครั้งนี้ แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งตัดออกมาจากงบปี 2563 ที่ตัดออกมาจากสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะและตัดออกมาจากหน่วยงานที่รับงบประมาณของรัฐ เช่น กระทรวง ทบวง กรม หรือในกลุ่มจังหวัดต่างๆ ที่ตัดคืนมาให้ ตามมติของคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2563 รวมประมาณ 88,000 ล้านบาท
วันที่พี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากไวรัสโควิด-19 ซึ่งต้องยอมรับว่าทุกคนมีความตระหนกและตื่นกลัว เพราะเป็นโรคที่ไม่รู้จักและสร้างความเสียหายให้กับชีวิตร่างกายและเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก ซึ่งทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่า รัฐบาลโดยเฉพาะสภาแห่งนี้จะต้องช่วยกันหาเม็ดเงินจากงบประมาณที่เคยตั้งไว้ ในปี 2563 ในส่วนที่ไม่จำเป็น หรือว่าสามารถชะลอออกไปได้ เพื่อนำเม็ดเงินเหล่านั้นกลับมาใช้ช่วยเหลือซับน้ำตาให้กับพี่น้องประชาชน หลังจากเกิดภัยโควิด-19 ซึ่งงบประมาณอบรมสัมมนา งบดูงานต่างประเทศ งบอาคารสถานที่ ที่ไม่จำเป็นและสามารถตัดได้ก็ต้องตัดออก โดยพิจารณาที่ความจำเป็นของสถานการณ์ สุดท้าย หน่วยงานต่างๆ ยินดีที่จะคืนงบกลับมา เพื่อซับน้ำตาประชาชนจากภัยโควิด-19 และงบฯ 88,000 ล้านบาท ถูกตัดออกมาอยู่ในงบกลาง ซึ่งเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีที่จะใช้จ่าย
“งบประมาณทั้ง 88,000 ล้านบาท ที่จะไปอยู่ในงบกลางและเป็นอำนาจนายกรัฐมนตรีที่จะใช้ ถ้าถูกนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่น ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับโควิด-19 เป็นหลัก จะเป็นตราบาปของสภาแห่งนี้ไปตลอด รวมถึงพี่น้องประชาชนที่จะขาดโอกาสจากงบประมาณที่ถูกโอนกลับมาทั้งคราบน้ำตา แล้วจะสร้างปัญหาให้หน่วยงานต่างๆ ที่จะต้องหางบประมาณทดแทน ดังนั้นนายกรัฐมนตรีจึงไม่ควรนำงบประมาณนี้ไปใช้ในวัตถุประสงค์อื่น”