“จิราพร” ชี้ “พล.อ.ประยุทธ์” ไม่ใช่นักบริหาร แต่เป็นนักรัฐประหาร นำพาหายนะมาสู่ประเทศ

27 ตุลาคม 2563 นางสาวจิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย กล่าวในการประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ ตามมาตรา 165 ว่า ญัตติที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เสนอต่อรัฐสภาแห่งนี้เต็มไปด้วยถ้อยคำที่กล่าวหาผู้ชุมนุม ไม่ได้พูดถึงสาเหตุที่นักเรียน นิสิต นักศึกษา ออกมาชุมนุมเรียกร้องเลย แสดงให้เห็นว่าไม่มีความจริงใจในการหาทางออกให้กับประเทศ

วันนี้ที่ผู้ชุมนุมออกมาเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออก เพราะท่านคือศูนย์กลางของปัญหาประเทศ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ใช่นักบริหาร แต่เป็นนักรัฐประหาร ซึ่งถือเป็นสารตั้งต้นของวิกฤติการเมืองที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน และนำความหายนะมากมายมาสู่ประเทศ สร้างรอยแตกร้าวขนาดใหญ่และขยายขึ้นด้วยการร่างรัฐธรรมนูญที่วางกลไกสืบทอดอำนาจ พล.อ.ประยุทธ์เคยบอกว่าจะเข้ามาคืนความสุข กลับสร้างแต่ความทุกข์ให้กับประชาชน ตลอดเกือบ 7 ปีที่อยู่ในอำนาจ บริหารประเทศจนทำให้เศรษฐกิจพังพินาศ

พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ใช่นักปรองดอง แต่เป็นนักไล่ล่า บอกว่าจะเข้ามาเพื่อสร้างความปรองดอง แต่ที่ผ่านมามีแต่ไล่ล่าจับกุมคุมขังผู้ที่เห็นต่างทางการเมือง แม้กระทั่งในการชุมนุมเรียกร้องเพื่อประชาธิปไตยโดยสงบ สันติ ปราศจากอาวุธ ของลูกหลานเราในวันนี้ ก็ยังมีการไล่ล่าจับกุมคุมขัง นักเรียน นักศึกษา แกนนำ และนักเคลื่อนไหวทางการเมืองไม่หยุดหย่อน

พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ใช่นักปฏิรูป แต่เป็นนักปฏิเสธการปฏิรูป เพราะมีหลักคิดและอุดมการณ์ปฏิเสธระบอบประชาธิปไตยมาโดยตลอด ที่ผ่านมาจึงไม่เคยมีการปฏิรูปประเทศอย่างแท้จริง รวมทั้งการแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย ซึ่งพฤติกรรมของ พล.อ.ประยุทธ์ ทำให้ประชาชนไม่ไว้วางใจ จึงออกมาขับไล่ให้ลาออก

สถานการณ์บ้านเมืองที่เกิดขึ้นทำให้ประชาชนต้องลุกขึ้นมาทวงสิทธิ เพื่อสร้างอนาคตของตัวเอง หลังจากนี้หากเกิดความเปลี่ยนแปลงใดๆ ทางการเมืองของประเทศไทย ควรเกิดขึ้นโดยสันติวิธี ถ้ารัฐบาลคิดว่าจะใช้อาวุธและกฎหมายเพื่อกวาดล้างผู้เห็นต่างทางการเมืองแบบที่ผ่านมา เชื่อว่าโลกเปลี่ยนไปแล้ว ประชาคมโลกเฝ้าจับตามองอยู่และพร้อมที่จะเคียงข้างพวกเขา