“เพื่อไทย” แนะ “ประยุทธ์” จี้ “แบงก์ชาติ” ดูแลค่าเงินบาท ซ้ำส่งออกติดลบ ทำเศรษฐกิจทรุด
23 ตุลาคม 2563 นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย และอดีตรองเลขาธิการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในฐานะคณะทำงานทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในภาวะที่เศรษฐกิจโลก ได้รับผลกระทบจากสงครามทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา อีกทั้งก่อนที่จะเกิดวิกฤติโควิด-19 ประเทศไทยมีเศรษฐกิจอยู่ในขาลงอยู่แล้วจากการบริหารเศรษฐกิจที่ผิดพลาดของรัฐบาล ความไม่เป็นประชาธิปไตย และเสถียรภาพทางการเมือง ทำให้นักลงทุนต่างชาติที่จะเข้ามาลงทุนในไทยเบนเข็มไปลงทุนในประเทศอื่น อย่าง เวียดนาม อินโดนีเซีย และเมียนมาร์ ส่วนผู้ประกอบการเอสเอ็มอียังถูกมองข้าม ปิดตัวลงจำนวนมาก คนตกงานอีกมาก ทั้งยังมีปัจจัยสำคัญคือเงินบาทที่ยังแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มที่จะแข็งค่าขึ้นอีก หลายธุรกิจอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการส่งออก มียอดขายตกลงร้อยละ 30-40 หรืออาจจะแย่กว่านั้นในบางราย ทั้งที่ภาคอุตสาหกรรมสร้างรายได้ให้กับประเทศกว่าร้อยละ 70 ซึ่งการพักชำระหนี้ได้สิ้นสุดลงแล้วในวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา สิ่งที่น่ากังวลกว่านั่นคือว่า คำว่าการเผาจริง สุดท้ายแล้วอาจจะไม่เหลืออะไรไว้ให้เผาเลย
นายกฤษฎา เสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งหรือนโยบายไปยังธนาคารแห่งประเทศไทย ให้ดูแลค่าเงินบาทให้อ่อนค่าลงหรือมีเสถียรภาพมากกว่านี้ เพื่อช่วยสนับสนุนการส่งออกให้สามารถแข่งขันได้ เพราะปัจจุบันการส่งออกของไทยใน 9 เดือนที่ผ่านมาได้ ติดลบถึงร้อยละ 7.33 แล้ว
“วันนี้ที่คนรุ่นใหม่ออกมาประท้วง ก็เพราะอาจจะมองไม่เห็นอนาคตของเขาเองในมือทีมเศรษฐกิจและทีมที่บริหารประเทศในปัจจุบัน จากตัวเลขเศรษฐกิจที่ติดลบทุกด้าน ความเชื่อมั่นทั้งภายนอกและภายในประเทศหายหมด วันนี้คำว่า ทำดีที่สุดแล้ว อาจจะยังไม่เพียงพอในภาวะที่ไม่ปกตินี้ คำถามที่สำคัญก็คือ แล้วเมื่อไหร่ ไทยจะเดินหน้าต่อกันได้สักที ไทยเดินถอยหลังมานานมากแล้วจริงๆ หาก พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่เข้าใจก็ไม่ควรจะบริหารประเทศนี้อีกต่อไปแล้ว” นายกฤษฎา กล่าว