“โฆษกพรรคเพื่อไทย” เผย พรรคเตรียมประชุม ส.ส. 25 ต.ค.นี้ เพื่อหารือแนวทางการอภิปรายฯ ชี้ ปิดสื่อเท่ากับปิดกั้นเสรีภาพประชาชน
21 ตุลาคม 2563 ผศ.ดร.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงท่าทีของพรรคเพื่อไทย ในการเปิดประชุมวิสามัญของรัฐบาลในวันที่ 26-27 ตุลาคม 2563 ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้มีการหารือเพื่อเตรียมแนวทางในการเปิดอภิปรายเพื่อถามคำถามต่อรัฐบาล โดยมีประเด็นหลักๆ 3 ประเด็น คือ 1. การใช้ความรุนแรงต่อการปราบปรามผู้ชุมนุมของรัฐบาล 2. การใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงยังมีความจำเป็นอยู่หรือไม่ เพราะจะส่งผลกระทบต่อปัญหาเศรษฐกิจที่สะสมมานานภายใต้การบริหารงานที่ผิดพลาดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในการใช้นโยบายที่ไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ 3. การใช้อำนาจของรัฐในการคุกคามสื่อ ปิดสื่อเสรีบางประเภทรวมถึงแพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งถือเป็นการปิดกั้นเสรีภาพของประชาชนเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยจะมีการประชุม ส.ส. ของพรรค ในวันที่ 25 ตุลาคม 2563 เพื่อกำหนดทิศทางและกรอบการอภิปรายที่ชัดเจน ซึ่งเบื้องต้นได้เตรียมขุนพลในการอภิปรายครั้งนี้ 20 คน โดยประเด็นหลักเน้นเรื่องการใช้ความรุนแรงของรัฐบาล การใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง และความล้มเหลวในการบริหารประเทศ โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ ซึ่งจะชี้ให้เห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ ยังมีความชอบธรรมในการบริหารประเทศอยู่หรือไม่ และ พล.อ.ประยุทธ์ ควรแสดงความรับผิดชอบอย่างไรต่อการใช้อำนาจและคำสั่งที่ส่งผลกระทบต่อประเทศทั้งในเรื่องของวิกฤติความเชื่อมั่น วิกฤติศรัทธา และวิกฤติกระบวนการยุติธรรม
นอกจากนี้ พรรคเพื่อไทยขอตั้งคำถามต่อรัฐบาลว่า คำสั่งที่ใช้ในการปิดสื่อถูกต้องชอบธรรมด้วยกฎหมายหรือไม่ บทบาทของสื่อควรจะคงดำรงอยู่หรือไม่ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยแบบที่นายกรัฐมนตรีกล่าวอ้าง ซึ่งสื่อมีสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารต่อประชาชน แต่วันนี้ถ้ามีการสั่งปิดสื่อบางแห่ง ทำไมถึงไม่นำเข้าสู่กระบวนการทางศาล เพื่อจะได้มีการพิสูจน์ข้อเท็จจริง แต่กลับสั่งปิด โดยไม่มีการพิสูจน์ข้อเท็จจริง ถือเป็นการเลือกปฏิบัติหรือไม่ในทางกฎหมาย เป็นจุดยืนที่พรรคเพื่อไทยไม่เห็นด้วยกับการใช้ประกาศคำสั่งของรัฐบาลในการปิดสื่อ
“รัฐบาลชุดนี้ไม่ได้คำนึงถึงกฎหมายรัฐธรรมนูญ และได้ก้าวล่วงขอบเขตของกฎหมายสูงสุด โดยมีการละเมิดสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชนที่มาชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธ รวมทั้งมีการปิดกั้นสื่อ รัฐธรรมนูญฉบับนี้จึงเป็นต้นเหตุแห่งปัญหาที่พรรคร่วมฝ่ายค้านและรัฐบาลควรหาแนวทางแก้ไขร่วมกัน”