“ฝ่ายค้าน” ชี้ รัฐบาลตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ หากกรรมการไม่มีอำนาจ ก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาบ้านเมืองได้ ยืนยัน นายกฯคือต้นตอปัญหา ต้องลาออกเท่านั้น

คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้านเพื่อการมีส่วนร่วมของประชาชน ร่วมกันแถลงภายหลังการประชุมหารือร่วมกันของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ต่อกรณีการเข้าร่วมคณะกรรมการสมานฉันท์ เพื่อหาทางออกให้ประเทศ

นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากกรณีที่รัฐบาลเสนอให้ตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ขึ้นมาเพื่อรับฟังข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุม พรรคร่วมฝ่ายค้านมีความเห็นร่วมกัน ว่า 1. ปัญหาสำคัญของประเทศที่เกิดขึ้นในขณะนี้ จนเกิดความแตกแยก และมีความขัดแย้งมากมาย ปัญหาใหญ่เกิดจากตัวนายกรัฐมนตรีเป็นหลัก ที่บริหารประเทศมา 6 ปี ท้ายสุดความขัดแย้งยิ่งมีมากขึ้น และเกิดความแตกแยกมากกว่าปี 2557 ไม่ได้เกิดความปรองดองสมานฉันท์ ยิ่งนานยิ่งเห็นได้ชัดว่าต้องการเพียงสืบทอดอำนาจเท่านั้น โดยร่างรัฐธรรมนูญมาเพื่อเอื้อประโยชน์พวกพ้องตนเอง บริหารประเทศไปเศรษฐกิจยิ่งล้มเหลว พรรคร่วมฝ่ายค้านจึงคิดร่วมกันว่า การตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเป็นเรื่องเปล่าประโยชน์ เราขอยืนยันจุดยืนที่ได้แสดงมาโดยตลอด ว่า พล.อ.ประยุทธ์ คือ ศูนย์กลางปัญหาของประเทศชาติ หากจะคลี่คลายปัญหาและสถานการณ์ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องลาออกจากตำแหน่งเสียก่อน 2. เรามีประสบการณ์และบทเรียนว่าการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาในสถานการณ์แบบนี้ ลักษณะรูปแบบนี้กรรมการไม่มีอำนาจในตัวเอง ก็ไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์ต่างๆได้ เพราะไม่มีอำนาจอยู่ในมือ สิ่งที่เราอยากเห็นคือการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม 3. ใจความสำคัญของการที่จะมีคณะกรรมการชุดนี้ขึ้นมา สิ่งสำคัญที่สุดคือจะต้องตีโจทย์ให้แตกว่า ปัญหาของประเทศในขณะนี้คืออะไร เพราะฉะนั้น พรรคร่วมฝ่ายค้านจึงอยากสอบถาม และตรวจสอบการตั้งคณะกรรมการชุดนี้ว่ามีเหตุผลอะไร และตั้งโจทย์อะไรในการมีคณะกรรมการชุดนี้ 4. ถ้าอยากคลี่คลายปัญหา เราต้องยุติยกเลิกการกระทำใดๆ ที่เป็นการคุกคามประชาชน เพื่อให้สถานการณ์ทั้งหลายคลี่คลาย เพราะตราบใดที่ยังมีการคุกคามประชาชน นักเรียน นิสิตนักศึกษาอยู่ โอกาสที่จะคลี่คลายสถานการณ์ปัญหา น่าจะไม่เป็นประโยชน์ และไม่มีทางเป็นผลสำเร็จ

 

ขณะที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สิ่งที่เรากำลังตั้งคำถามคือการที่รัฐบาลเชิญพรรคร่วมฝ่ายค้านเข้าร่วมในการตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ขึ้นมา รัฐบาลมีเป้าหมายปลายทางอย่างไร และจะทำได้หรือไม่ ประเด็นสำคัญเรื่องแรก คือปัญหาทั้งหมดอยู่ที่ตัว พล.อ.ประยุทธ์ ในการเปิดรับฟังความเห็นจากเรา ซึ่งเห็นได้ว่าจากการที่พรรคร่วมฝ่ายค้านได้ร่วมอภิปรายวิสามัญครั้งที่ผ่านมา เราได้ชี้ให้เห็นแล้วว่าวันนี้นายกรัฐมนตรีล้มเหลว ไร้ความสามารถทุกด้าน ทั้งการแก้ปัญหาความขัดแย้งในสังคม การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ และการดูแลวิกฤตการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น พล.อ.ประยุทธ์ ไม่สามารถทำได้ จึงเป็นที่มาของการชุมนุมของประชาชน นักเรียน นิสิตนักศึกษา ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ทำความเข้าใจในประเด็นนี้ หรือโยนเรื่องต่างๆ ปัดความรับผิดชอบให้เป็นเรื่องของสภา หรือเป็นส่วนอื่นๆ จะไม่มีทางแก้ปัญหาได้ เพราะฉะนั้น หากจะชวนพรรคร่วมฝ่ายค้านเข้าไปแก้ปัญหา เราอยากเห็นการร่วมมือกันของทุกฝ่าย และอยากให้สังคมไทยเข้าสู่ภาวะที่ปกติสุขและสงบ เพื่อที่จะรวมพลังรวมใจในการแก้ไขวิกฤตการณ์ต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน หัวใจสำคัญที่สุดคือ นายกรัฐมนตรีต้องเสียสละตัวเองออกจากความขัดแย้ง เพื่อให้ทุกอย่างเข้าสู่กระบวนการปกติ เพื่อที่จะหาทางออกให้กับประเทศ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องลาออก และหยุดขบวนการคุกคามประชาชนทุกรูปแบบจึงจะเกิดบรรยากาศที่เหมาะสมในการพูดคุย เพื่อจะหาทางออกให้กับประเทศร่วมกัน

“วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องตัดสินใจ ถ้าท่านตัดสินใจออกไปจากความขัดแย้งนี้ เชื่อว่าทุกฝ่ายจะหันหน้ามาพูดคุยกัน และหาทางออกให้กับประเทศได้ แต่ถ้าท่านยังไม่ยอมตัดสินใจ และยังโยนความรับผิดชอบต่างๆ ไปให้ฝ่ายค้าน นักเรียน นักศึกษา หรือประชาชน เป็นผู้รับผิดชอบ ท่านคือคนที่กำลังถ่วงดุลวิกฤตการณ์ที่จะคลี่คลายของสังคมไทยในปัจจุบัน เพราะฉะนั้น ต้องกลับไปถามนายกรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรีต้องกล้าหาญที่จะตอบความเป็นจริง อย่าโยนคำตอบหรือทางออกต่างๆ ไปให้กับคนอื่น” นายภูมิธรรม กล่าว