“ส.ส.เพื่อไทย” ติง รัฐบาลออกมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรล่าช้า แนะเร่งหาแผนระยะยาวแก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำ

นายภาควัต ศรีสุรพล ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงโครงการประกันรายได้พืช 5 ชนิด ที่จะเริ่มใช้ในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2563 ว่าเป็นการออกมาตรการที่ช้าเกินไป ไม่มีความจริงใจที่จะแก้ปัญหาหรือช่วยเหลือเกษตรกรอย่างจริงจัง เพราะเกษตรกรโดยเฉพาะชาวนาประสบปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำมาเป็นระยะเวลายาวนาน ต้นทุนสูง ขณะที่สภาพอากาศปีนี้ถือว่าแห้งแล้งหนัก ปริมาณน้ำในเขื่อนติดลบ เมื่อข้าวออกรวงกำลังจะเก็บเกี่ยวกลับมีฝนตกหนัก ต้นข้าวล้มแช่น้ำ ทำให้ราคารับซื้อตกต่ำ โดยราคารับซื้อข้าวสดหรือข้าวความชื้นสูง อยู่ที่กิโลกรัมละ 7 บาท ข้าวความชื้นต่ำ อยู่ที่กิโลกรัมละ 9 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำมาก หากเทียบกับสมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ราคาข้าวเฉลี่ยอยู่ที่กิโลกรัมละ 12 บาท ซึ่งในขณะนั้นทางรัฐบาลยังคิดว่าน้อยเกินไปสำหรับชาวนาที่ต้องแบกรับทั้งต้นทุนการผลิตและความเสี่ยงต่างๆ จึงมีโครงการรับจำนำข้าวเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร

“ตอนนี้ข้าวนาปรังมีแต่ฟางกับหนี้ ข้าวนาปีมีแต่หนี้กับฟาง เราเคยมีผู้นำมืออาชีพ แต่วันนี้เราเดินมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร สมัยก่อนทำนาส่งลูกเรียน แต่สมัยนี้ต้องขายนาส่งลูกเรียน” นายภาควัต กล่าว

ทั้งนี้ รัฐบาลต้องมีแผนระยะยาวที่ชัดเจน และนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาให้เกษตรกรได้เรียนรู้เพื่อลดต้นทุนการผลิต หาตลาดรองรับสินค้าทางการเกษตร รวมทั้งเจรจาการค้าการส่งออกกับต่างประเทศให้มีประสิทธิภาพ เพราะต่างชาติขาดความเชื่อมั่นในรัฐบาลชุดนี้