“โฆษกเพื่อไทย” จี้รัฐบาล อย่าดีแต่รับฟังแต่ไม่เคยได้ยินเสียงประชาชน ย้ำนายกฯต้องลาออก เสียสละคนเดียวเพื่อคน 70 ล้าน ประเทศเดินหน้าทันที
ผศ.ดร.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงท่าทีรัฐบาลที่เตรียมเชิญกลุ่มเห็นต่างเสนอไอเดียด้านเศรษฐกิจว่า เป็นเพียงข้ออ้างซื้อเวลา หวังผลในการลดแรงกดดัน และสร้างความชอบธรรม เพื่อให้ฝ่ายสนับสนุนรัฐบาล และปฏิบัติการไอโอนำไปเบี่ยงประเด็นจากสถานการณ์ชุมนุมเท่านั้น
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาพรรคฝ่ายค้าน ผู้ชุมนุม และนักวิชาการ ได้เสนอทางออกด้านการเมือง และเศรษฐกิจ มาโดยตลอด แต่รัฐบาลไม่เคยได้ยิน 6 ปีที่ผ่านมา คือบทพิสูจน์การบริหารประเทศที่ปราศจากการรับฟังเสียงของสังคมได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจไทยที่อยู่ในขั้นตกต่ำที่สุด หนี้ครัวเรือนเพิ่มสูงขึ้นหลายเท่า เฉพาะหนี้ครัวเรือนไตรมาส 2 แตะร้อยละ 83.8 และอาจทะลุร้อยละ 90 ภายในสิ้นปีนี้ สอดคล้องกับตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือจีดีพีที่จะลดต่ำลง รวมถึงปัญหาตกงาน บัณฑิตจบใหม่ว่างงานอีกจำนวนมหาศาล และการส่งออกที่อาจติดลบกว่าร้อยละ 10 ในปีนี้
ขณะที่ ส.ส. และ ส.ว. หลายคนยังทำตัวเป็นปรปักษ์ต่อประชาชน ทั้งหมดแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลนี้ไร้ความสามารถและไร้ประสิทธิภาพในการทำงาน ผู้นำรัฐบาลมีหน้าที่บริหารประเทศให้ก้าวพ้นวิกฤต แต่ต้องมาขอไอเดีย ขอร้องให้ช่วยกัน จึงไม่ใช่วิสัยของผู้บริหารมืออาชีพ ทางออกเดียวของประเทศในเวลานี้คือการเสียสละลาออกของ พล.อ.ประยุทธ์ เพียงคนเดียว จะเป็นประโยชน์ต่อคนไทยเกือบ 70 ล้านคนทันที พล.อ.ประยุทธ์ ออกมาให้สัมภาษณ์หลายครั้งว่าไม่อยากเป็นนายกฯ ไม่ยึดติดตำแหน่ง แต่ก็ไม่ลาออกเสียที ยิ่งอยู่ยิ่งเสื่อมถอยในตัวเอง และถ่วงประเทศชาติ
โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขอให้ประชาชนจับตาการพิจารณาญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ วันที่ 17-18 พฤศจิกายนนี้ ว่ารัฐบาลจะคำนึงถึงความต้องการประชาชนทั้งประเทศอีกหรือไม่ หรือจะตีมึนดึงดันไม่แก้ไขในประเด็นที่ประชาชนเรียกร้อง ยิ่งทำตัวเองเป็นตัวปัญหามากกว่าเดิม
“พล.อ.ประยุทธ์ และรัฐบาลถนัดทำแต่สิ่งที่ย้อนแย้งในตัวเองเสมอ ทั้งกลับลำแก้รัฐธรรมนูญ ใช้ความรุนแรงต่อกลุ่มผู้ชุมนุม สวนทางกับปากที่สื่อสารกับประชาชน” ผศ.ดร.อรุณี กล่าว