นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ ส.ส.หนองคาย และคณะทำงานทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การที่ทูต 5 ประเทศทั้งสหรัฐฯ อังกฤษ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และเยอรมัน ได้ออกมาเรียกร้องรัฐบาล 10 ข้อ ซึ่งเป็นการเรียกร้องครั้งที่ 2 แล้ว แสดงให้เห็นว่า รัฐบาลด้อยประสิทธิภาพ การบริหารประเทศมีปัญหามาก ทั้งความไม่โปร่งใส ความล้าหลังทางด้านดิจิทัล มีหน่วยงานซ้ำซ้อนทำให้เกิดความล่าช้า และมีการทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งเป็นปัญหาของระบบราชการไทยมาโดยตลอด

พรรคเพื่อไทยจึงอยากเสนอให้ปรับระบบราชการเป็นระบบดิจิทัลทั้งหมด (Digitalization) เพื่อลดการซ้ำซ้อนของหน่วยงาน ลดขนาดราชการให้เล็กลง และขจัดการทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งถือเป็นนโยบายหลักของพรรคเพื่อไทย นอกจากนี้ยังมี platform เพื่อพัฒนาประเทศให้เกิดธุรกิจด้านเทคโนโลยีได้อย่างแท้จริง และพัฒนาให้ประเทศไทยมีบริษัทเทคโนโลยีที่มีมูลค่าสูง หรือที่เรียกกันว่ายูนิคอร์น ซึ่งจะแก้ไขปัญหา 10 ข้อที่ทูต 5 ประเทศแนะนำมา และจะทำให้เกิดความสะดวกในการทำธุรกิจของไทย จึงอยากให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปรับปรุง อย่าให้ทูตของประเทศคู่ค้าหลักต้องออกมาสอนมวยอีกเป็นครั้งที่ 3

นอกจากนี้ นายกฤษฎา กล่าวต่อว่า อยากให้รัฐบาลเร่งช่วยเหลือภาคธุรกิจ SMEs ที่กำลังได้รับผลกระทบอย่างหนัก เพราะขาดสภาพคล่อง และจะปิดกิจการอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะทำให้เกิดการว่างงานและหนี้เสียตามมา อีกทั้งอยากเรียกร้องไปยังแบงก์ชาติให้ดูแลค่าเงินบาทให้อ่อนค่าลง เพื่อให้ SMEs ด้านการส่งออกได้สามารถแข่งขันทางราคาได้ เพื่อให้สามารถฟื้นฟูธุรกิจที่กำลังย่ำแย่อยู่ให้ประคองตัวได้ในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน

“ในวิกฤติเศรษฐกิจเช่นนี้ รัฐบาลต้องคิดให้รอบคอบ อย่ามาวาดฝันสวยหรู แต่ไม่สามารถทำให้เกิดผลได้จริง เพราะประชาชนไม่สามารถทนแบกรับปัญหาเศรษฐกิจที่รุมเร้า เนื่องจากความล้มเหลวในการบริหารประเทศของรัฐบาลได้อีกต่อไปแล้ว” นายกฤษฎา กล่าว