การท่องเที่ยวคือประตูรายได้ที่ “สำคัญ” และ “รวดเร็ว” ที่สุดในการกระจายรายได้ให้ประชาชน พรรคเพื่อไทยจึงตั้งเป้าหมายกระตุ้นการท่องเที่ยวให้กลับมาเป็น “รายได้หลัก” ของประเทศโดย
- รายได้จากการท่องเที่ยวที่พึ่งเริ่มฟื้นตัวหลังการระบาดของ COVID19 จากประมาณ 7 แสนล้านบาท ในปี 2565 เป็น 3 ล้านล้านบาทในปี 2570 เพื่อให้เกิดการกระจายรายได้ไปทุกพื้นที่ตั้งแต่พี่น้องเกษตรจนถึงคนทำงานในโรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร กิจการขนส่งต่างๆ
- วางตัวให้เป็น “Festival Hub of Asia” โดยการสร้างเทศกาลไทยให้ไปถึงระดับโลก เช่น เทศกาลสงกรานต์เดือนเมษายน เทศกาลลอยกระทงเดือนพฤศจิกายน เทศกาลสินค้าเกษตร เทศกาลแข่งขันมวยไทย และ ดึงเทศกาลระดับโลกมาจัดในประเทศไทย เช่น เทศกาลดนตรี เทศกาลศิลปะและวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียงต่างๆ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวและเม็ดเงินเข้าประเทศในทุกภาคส่วน ในขณะเดียวกันเปิดโอกาสให้คนไทยได้เข้าร่วมกิจกรรมระดับโลก
- เน้นการสร้างประสบการณ์ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับวัฒนธรรมและเสน่ห์ความเป็นไทยให้ได้มากที่สุด
- พัฒนาประเทศไทยให้เป็น Regional transport hub ทั้งในด้านผู้โดยสารและการขนส่งสินค้าทางอากาศ จัดตารางการบินให้มีประสิทธิภาพเชื่อมต่อสายการบินเพื่อให้สายการบินจากทั่วโลกมาต่อเครื่องที่ไทย
- ยกระดับสนามบินนานาชาติให้สามารถรองรับนักท่องเที่ยวจำนวน 120 ล้านคนและปริมาณการขนส่งสินค้า cargo จำนวน 3 ล้านตันภายในปี 2570
- เร่งพัฒนาการจัดการอำนวยความสะดวกในทุกๆด้าน ลดกระบวนการการตรวจเอกสารให้สะดวกรวดเร็ว เพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางเข้าออกที่สนามบินนานาชาติให้มากขึ้นสำหรับทั้งชาวไทยและต่างชาติ คิวไม่ยาว กระเป๋าไม่หาย ไม่โดนแท๊กซี่โกง
- เจรจากับประเทศต่างๆ เพื่อปลดภาระในการขอวีซ่าเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวและยกระดับหนังสือเดินทางไทยให้สามารถเดินทางไปทั่วโลก
ส่งเสริมการท่องเที่ยวทางด้านการแพทย์และสุขภาพมุ่งทำให้ประเทศไทยเป็น “Wellness Destination” ของเอเชีย เพื่อดึงดูดเม็ดเงินและความรู้ พัฒนาและเพิ่มทรัพยากรทางบุคคลากรทางการแพทย์เพื่อยกระดับระบบสาธารณสุขให้เพียงพอและทันสมัย สนับสนุนอุตสหกรรมอาหารเกษตรเพื่อสุขภาพ สมุนไพรและแพทย์ทางเลือก